นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ตามประกาศในเว็บไซต์ บริษัทฯได้รับการคัดเลือกจากครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ให้ส่งเนื้อไก่ให้ครัวการบินไทย เพื่อนำไปผลิตอาหารให้กับสายการบินไทย และสายการบินนานาชาติจำนวน 52 สายการบิน โดยจะเริ่มส่งสินค้าไปให้กับครัวการบินตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2559 – 30 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป
"การส่งเนื้อไก่ให้ครัวการบินของการบินไทย ในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการรุกเข้าสู่ตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นของ TFG และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการผลิตสินค้าของบริษัทฯที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับของครัวการบิน ให้เป็นคู่ค้าและจัดส่งเนื้อไก่ตัดแต่งให้ เพื่อนำไปผลิตอาหารให้กับสายการบินไทยและสายการบินนานาชาติ"นายเชิดศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯเริ่มเพิ่มปริมาณผลิตไก่ต่อเนื่องจาก 360,000 ตัวต่อวันเป็น 500,000 ตัวต่อวันภายในสิ้นปีนี้ โดยมีแผนขยายตลาดภายในประเทศมากขึ้น สอดคล้องกับแผนขยายสาขา 45 แห่ง ในต่างจังหวัด ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายโมเดิร์นเทรด เครือข่ายฟู้ดส์เซอร์วิส และโครงข่ายผู้ผลิตในประเทศ
สำหรับการรุกตลาดต่างประเทศได้ทำการขยายกำลังการผลิตไก่คุณภาพส่งออกเพิ่มที่โรงงานชำแหละไก่ที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวของการขายส่งออกสู่ต่างประเทศทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายไก่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ธุรกิจของ TFG เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ปัจจุบัน ตลาดสุกรมีราคาค่อนข้างดี บริษัทฯเร่งขยายการเลี้ยงสุกร จาก 45,000 ตัวต่อเดือน เป็น 55,000 ตัวต่อเดือน ทั้งระดับพ่อแม่พันธุ์ สุกรขุน และเดินหน้าเพิ่มโรงชำแหละสุกรมาตรฐานสูง เพื่อส่งสินค้าสุกรชำแหละให้กับโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ โดยรับผิดชอบการกระจายสินค้าถึงปลายทางสาขาต่างๆด้วย ส่วนตลาดเวียตนาม บริษัทฯเดินหน้าขยายการเลี้ยง และลงทุนเพิ่มในการผลิตอาหารสัตว์มากขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) กล่าวอีกว่า ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ช่วง Growth Phase อย่างเด่นชัด ของ TFG โดยขยายกิจการหลักในทุกมิติ หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างการบริหาร ปรับปรุงคุณภาพการผลิต และวางแผนการเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อขยายตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 17,500 ล้านบาท