นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวลือในไลน์ หรือ ตามเว็บไซต์ต่างๆ ว่าหากข้าราชการ และผู้รับบำนาญไม่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ (PromptPay) จะไม่ได้รับเงินเดือน หรือเงินบำนาญ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไปทำให้ข้าราชการเกิดความสับสน และกังวลใจว่าจะไม่ได้รับเงินนั้น กรมบัญชีกลางจึงขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบันกรมบัญชีกลางจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จบำนาญ ให้กับข้าราชการ ผู้รับบำนาญ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ โดยการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านทางระบบจ่ายตรง ดังนั้น แม้ว่าจะยังไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ก็จะได้รับเงินเดือนเข้าบัญชีตามเดิม ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทะเบียนพร้อมเพย์ คือ ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน หรือเสียในอัตราที่ถูกลง ทั้งยังสามารถโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น ผู้รับบำนาญที่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง โอนเงินให้กับเพื่อนผู้รับบำนาญที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วเช่นเดียวกัน โอนเงินให้ 5,000 บาท ต่างธนาคารและต่างสาขา ก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งหากไม่ได้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ จะเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ครั้งละ 25 บาท หรือตามที่ธนาคารกำหนดไว้
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบพร้อมเพย์ เป็นการบริการรับโอนเงินแบบใหม่ ที่มีการผูกบัญชีของผู้รับเงินโอนกับเลขที่บัตรประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ผู้โอนเงินสามารถโอนเงินให้ผู้รับโดยไม่ต้องระบุธนาคารและเลขที่บัญชีของผู้รับโอน เพียงระบุเลขประจำตัวประชาชนของผู้รับโอนที่ผูกไว้ก็สามารถทำธุรกรรมได้ ทำให้สะดวกในการโอนและรับโอนเงิน และสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ต่างธนาคารและต่างสาขา ถ้าไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากปกติต้องเสีย 25 บาท ซึ่งถ้าเกิน 5,000 บาท ก็เสียค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขของระบบพร้อมเพย์ ซึ่งสามารถลงทะเบียนได้กับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง โดยจะเริ่มใช้ระบบพร้อมเพย์ในเดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
"การลงทะเบียนเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์นั้น จะทำให้รับเงินง่าย โอนเงินสะดวก เพียงแค่แจ้งหมายเลขบัตรประชาชนของผู้รับเงินเท่านั้น รวมถึงประหยัดเงินค่าธรรมเนียมในการโอนเงินได้มากยิ่งขึ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการ และผู้รับบำนาญตามปกติ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด (National e- Payment)" นายมนัส กล่าว