บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุน LTF/RMF แนะทยอยสะสมหุ้นไทย พร้อมปรับเป้าดัชนี SET ปลายปี 59 ที่ 1,550 จุด ชูกองทุนเด่น K20SLTF, KDLTF และ KMSRMF

จันทร์ ๐๑ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๐๙:๐๐
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยได้ปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2559 โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,550 จุด ด้วยอัตราส่วน Forward P/E ที่ระดับ 16.5 เท่า ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่เคยตั้งไว้ตอนต้นปีอยู่ที่ระดับ 1,450-1,500 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากภาวะอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะเป็นสินทรัพย์เสี่ยงแต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากมาก ประกอบกับตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารสหรัฐฯ(เฟด) น่าจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอย่างน้อยในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ ถึงแม้ว่าระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ของตลาดถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต แต่เป็นไปในทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและยาวนานกว่าปกติ

สำหรับมุมมองการลงทุนในหุ้นไทย นางสาวธิดาศิริกล่าวว่า "ด้วยมุมมองการลงทุนในระยะกลางถึงยาว บลจ.กสิกรไทยมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ โดยผู้ลงทุนสามารถทยอยเข้าสะสมในหุ้นเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงและรวดเร็ว ทำให้อาจมีโอกาสปรับตัวผันผวนบ้างในระยะสั้น แต่การปรับตัวลงอาจจะไม่มากนักเนื่องจากยังมีปัจจัยบวกด้านสภาพคล่องในตลาดที่มีอยู่ในระดับสูง ประกอบกับในช่วงที่การลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับต่ำมาก ทำให้คนหันมาลงทุนในหุ้นมากขึ้น นอกจากนี้บลจ.กสิกรไทยยังมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยสนันสนุนให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่จะต้องจับตามองคือ ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงประเด็นการจัดการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหากมีความเป็นรูปธรรมและกำหนดเวลาที่ชัดเจนจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ"

ส่วนด้านปัจจัยต่างประเทศ ตลาดและนักลงทุนได้คลายความกังวลเกี่ยวกับจังหวะในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ส่วนใหญ่มองว่ามีโอกาสปรับขึ้นเพียง 1 ครั้งเท่านั้นภายในปีนี้ ในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งส่งผลดีในแง่เงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทย ขณะที่เหตุการณ์ Brexit ไม่ได้ส่งผลกระทบในเชิงลบมากนักเหมือนที่ตลาดเคยกังวล เห็นได้จากตลาดหุ้นโลกที่สามารถปรับตัวเป็นบวก รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบจำกัด อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามต่อเนื่องคือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศสมาชิกอื่นๆในสหภาพยุโรป ที่อาจมีประเด็นเรื่องขอแยกตัวเช่นเดียวกับอังกฤษ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดเริ่มกลับมากังวลได้อีกครั้งหนึ่ง

นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า ด้วยปัจจัยต่างๆที่กล่าวมา บลจ.กสิกรไทย จึงขอแนะนำสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการจะเข้าลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในช่วงนี้ ว่าสามารถทยอยเข้าซื้อกองทุน LTF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มเติมได้ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งบลจ.กสิกรไทยมีกองทุน LTF/RMF หลากหลายนโยบายครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ลงทุน โดยกองทุนที่แนะนำและมีผลการดำเนินงานที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นเด่นที่มีศักยภาพสูง ไม่เกิน 20 ตัว, กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และกองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูง

ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2559 กองทุน K20SLTF ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 14.45% และย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่ 17.52% ด้านกองทุน KDLTF ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 18.95% และกองทุน KMSRMF ซึ่งเพิ่งจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 30 กันยายนปีที่ผ่านมา กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 19.32% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 23.83% เมื่อเทียบกับ SET Index ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 11.56%

ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน LTF-RMF ของ บลจ. กสิกรไทย สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น