บลจ.วรรณ ชี้ หุ้นลงลึก จากแรงทำกำไร

อังคาร ๐๖ กันยายน ๒๐๑๖ ๐๙:๓๙
บลจ.วรรณ ระบุ สาเหตุดัชนีปรับตัวลงลึกหลักๆมาจากแรงขายทำกำไรหลังหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาก ประเมินกรอบ สัปดาห์นี้ 1,480-1,530 จุด แนะให้ติดตามมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมธนาคารกลางยุโรป 8 ก.ย.นี้

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวลดลง โดยหลักๆ มองว่า มาจากแรงขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นไทยเริ่มแพง เมื่อเทียบผ่านระดับ PE กับค่าเฉลี่ยในภูมิภาค โดยปัจจุบัน ณ วันที่ 23/08/2016 ค่า PE ไทยอยู่ที่ 16.29 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 14.98 เท่า

ประกอบกับ ก่อนหน้านี้มีความกังวลของนักลงทุนว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เผชิญกับแรงขายนำในช่วงก่อนหน้า อีกทั้งยังคงมีความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. 59 แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm Payroll) จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์และต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาก็ตาม ซึ่งยังเป็นประเด็นที่คงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะจะส่งผลต่อเม็ดเงินทุนต่างชาติ โดยคาดว่าดัชนี SET ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวในกรอบ 1,480-1,530 จุด ทั้งนี้ มองว่าหากดัชนีฯ ต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด เป็นโอกาสในการทยอยซื้อสะสมในหุ้นไทยเพื่อลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้

"ในภาวะที่ตลาดยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ โดยนักลงทุนเริ่มเห็นแตกต่างกัน 2 ทาง คือ มีทั้งส่วนที่คาดว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นี้และไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ก.ย. 59 ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวน อย่างไรก็ดี ด้วยตลาดที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 8 ก.ย. นี้ ยังเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยสนับสนุนตลาดได้บางส่วนซึ่งจะส่งผลต่อสภาพคล่องในระบบให้เพิ่มขึ้น" นายมณฑล กล่าว

นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านราคาน้ำมัน คาดว่าปัจจัยกดดันด้านราคาน้ำมันอาจผ่อนคลายลง เนื่องจากปริมาณการผลิตส่วนเกินน่าจะจำกัดมากขึ้นหลังประเทศรัสเซียเริ่มมีท่าทีเป็นผู้นำในการตรึงกำลังการผลิตในปัจจุบันและประเทศสหรัฐฯ น่าจะปรับลดปริมาณการผลิตลง 5-6 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐและทิศทางค่าเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากอาจกระทบต่อราคาน้ำมันดิบได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา