(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.17 น.ของวันที่ 03/11/16)
แนวโน้มวันที่ 04 พฤศจิกายน 2559
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25-0.50%ผู้กำหนดนโยบายแสดงความเห็นตรงกันมากยิ่งขึ้นว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ตราบใดที่การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปรับขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ราคาทองคำไม่ได้ตอบสนองกับประเด็นเฟดมากนักเพราะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงมากขึ้นที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะชนะนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง เพราะยังคงกังวลกับความไม่แน่ใจต่อนโยบายเศรษฐกิจ, การค้าเสรี และการเมือง ของนายทรัมป์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีแรงขายทำกำไรออกมา เมื่อนักลงทุนปรับลดความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน จะชนะการเลือกตั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ต้องการเดินหน้าตรวจสอบมูลนิธิคลินตัน แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสของ FBI และกระทรวงยุติธรรมคิดว่าไม่มีหลักฐานมากนัก ทั้งนี้ ความผันผวนจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่สูสีนั้นทำให้นักลงทุนในตลาดทองคำปลีกตัวอยู่นอกตลาดเพื่อรอดูสถานการณ์ บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับ 34.89 แข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากสมาคมตราสารหนี้ไทยเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อพันธบัตรไทยคิดเป็นมูลค่ารวม 2.0 หมื่นล้านบาทในวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาทยังคงกดดันราคาทองคำภายในประเทศ เบื้องต้นประเมินว่า หากแรงขายไม่มากจนราคาหลุดแนวรับสำคัญ ประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะค่อยๆขยับขึ้นเข้าทดสอบใกล้ 1,308-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หากทะลุไปได้จะเกิดแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นไว้ที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,287 หรือ 1,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,308-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,287 (21,290บาท) 1,275 (21,090บาท) 1,266 (20,940บาท)
แนวต้าน 1,313 (21,730บาท) 1,322 (21,880บาท) 1,330 (22,000บาท)
GOLD FUTURES (GFV16)
แนวรับ 1,287 (21,480บาท) 1,275 (21,280บาท) 1,266 (21,130บาท)
แนวต้าน 1,313 (21,920บาท) 1,322 (22,070บาท) 1,330 (22,200บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999