อย่างไรก็ตามฟิทช์ยังคงคาดว่าแรงกดดันจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้สำหรับธนาคารส่วนใหญ่ ซึ่งมุมมองดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่ยังคงมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนทางการเงินของธนาคารพาณิชย์น่าจะปรับตัวอ่อนแอลงมาบ้าง แต่น่าจะยังคงอยู่ในระดับปรกติสอดคล้องกับภาวะการชะลอตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ
ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์อาจได้รับการบรรเทาผลกระทบไปได้บ้างจากอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง (โดยอัตราส่วนเฉลี่ยของภาคธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 127%) และฟิทช์คาดว่าอัตราการผิดนัดชัดชำระหนี้ของลูกค้าสินเชื่อน่าจะเริ่มชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2560 นอกจากนี้ธนาคารพาณิชย์น่าจะยังคงสามารถรักษาฐานะเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งได้ต่อเนื่อง (โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยของภาคธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 14.2%) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยรองรับความเสี่ยงในกรณีที่เกิดการปรับตัวแย่ลงมากกว่าคาดการณ์ของภาวะอุตสหกรรม
รายงานเรื่อง "2017 Outlook: Thai Banks" สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com