ยูพีเอสเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ทำกำไรต่อหุ้น 1.58 ดอลล่าร์ จากรายได้ที่เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ

จันทร์ ๒๑ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๕๔
- กำไรจากการขนส่งในสหรัฐฯ พุ่ง 13% พร้อมผลกำไรขยายตัวเป็น 14.3%

- รายได้ในสหรัฐฯ เพิ่ม 8.1% จากการขนส่งทางบกและอากาศที่โตแข็งแกร่ง

- ธุรกิจส่งออกเติบโต 12% จากการขยายตัวในตลาดต่างประเทศทุกภูมิภาค

- ธุรกิจซัพพลายเชนและเฟรทดันรายได้เพิ่ม 12%

- ยืนยันประมาณการกำไรต่อหุ้นปรับลดสำหรับปี 60 ทั้งปีเท่าเดิม

ยูพีเอสประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 มีกำไรต่อหุ้น 1.58 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อันเป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 7.7% กลุ่มธุรกิจหลักทั้งสามกลุ่มต่างมีผลกำไรเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนสูงขึ้น และสามารถบริหารต้นทุนการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น

เดวิด แอ็บนีย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูพีเอส กล่าวว่า "ยูพีเอสมีรายได้ในไตรมาส 2 นี้สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีอัตรากำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สอดคล้องกับแผนที่วางไว้ เราจะยังคงลงทุนด้านเครือข่ายเพื่อขยายขีดความสามารถ เสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาด และขยายธุรกิจทั่วโลก"

ผลการดำเนินงานของยูพีเอสในภาพรวม ประจำไตรมาส 2 ปี 2560

- รายได้รวมเติบโต 7.7% และรายได้ตามค่าเงินสกุลกลางเพิ่มขึ้น 8.9%

- รายได้เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจและทุกประเภทผลิตภัณฑ์หลัก เนื่องจากความต้องการในตลาดในที่ขยายตัวต่างกระจายไปสู่ผลิตภัณฑ์อันหลากหลายของบริษัท

- กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 8.7% เป็น 2.2 พันล้านดอลล่าร์ เนื่องจากผลการเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจการขนส่งภายในสหรัฐฯ และธุรกิจซัพพลายเชนและเฟรท

- อัตราผลกำไรที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วยังรวมถึงผลกำไร 0.10 ดอลล่าร์ที่ได้จากส่วนต่างค่าน้ำมันและค่าชดเชยพนักงาน

- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อรองรับกลยุทธ์การลงทุนที่ผ่านมาในปีนี้มีจำนวน 2.0 พันล้านดอลล่าร์

- ปีนี้ ยูพีเอสจ่ายเงินปันผลจำนวนเกือบ 1.4 พันล้านดอลล่าร์ เพิ่มขึ้น 6.4% ต่อหุ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มอบอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

- ณ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทซื้อหุ้นคืน 8.4 ล้านหุ้น เป็นจำนวนเงินกว่า 900 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการคืนเงินสดแก่ผู้ถือหุ้น

การขนส่งภายในสหรัฐอเมริกา

ธุรกิจการขนส่งภายในประเทศสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากความต้องการในการส่งสินค้าอีคอมเมอร์ซที่เติบโต ซึ่งส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น 8.1% จากไตรมาส 2 ปี 59 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ หันมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น และยูพีเอสได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าวด้วยโซลูชั่นการส่งสินค้าที่โดดเด่นและเทคโนโลยีเพื่อการบริการลูกค้าที่ล้ำสมัย

ผลการดำเนินงานของธุรกิจการขนส่งภายในสหรัฐฯ ประจำไตรมาส 2 ปี 2560

- รายได้เพิ่มขึ้น 730 ล้านดอลล่าร์จากไตรมาส 2 ปี 59 เนื่องจากอีคอมเมอร์ซผลักดันให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการขนส่งทางบกและทางอากาศสูงขึ้น

- การขนส่งทางอากาศแบบถึงที่หมายวันทำการถัดไปเพิ่ม 6.4% และการขนส่งทางอากาศแบบไม่เร่งด่วนเติบโต 11% เนื่องจากผู้บริโภคเลือกใช้โซลูชั่นที่รวดเร็วและสะดวกสบายของยูพีเอสอย่างต่อเนื่อง

- รายได้ต่อชิ้นพัสดุเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ด้วยอัตรารวม 3.0% เนื่องจากบริษัทได้ประโยชน์จากวิธีการกำหนดราคาแบบบวกกำไรที่นำมาใช้ก่อนหน้านี้ และค่าธรรมเนียมน้ำมันที่สูงขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 59

- กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่า 13% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานขยาย 60 จุดเป็น 14.3%

- ต้นทุนการดำเนินงานในการก่อสร้างฐานปฏิบัติงานและและบริการส่งสินค้าในวันเสาร์ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานรวมเพิ่ม 35 ล้านดอลล่าร์

การขนส่งระหว่างประเทศ

ธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศมีการเติบโตในระดับสูงที่สุดจากความต้องการในการส่งสินค้าข้ามประเทศที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของการส่งออกแข็งแกร่งในทุกภูมิภาคที่ยูพีเอสดำเนินธุรกิจ เนื่องจากลูกค้ามีทางเลือกจากพอร์ตบริการอันหลากหลาย ระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งที่รวดเร็วขึ้น และโซลูชั่นด้านพิธีการศุลกากรของยูพีเอส ธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศยังมีการประกาศขยายขีดความสามารถและตลาดในประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานของธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศ ประจำไตรมาส 2 ปี 2560

- อัตรากำไรจากการดำเนินงานแข็งแกร่งเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจที่ 18.4% และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 583 ล้านดอลล่าร์ รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 114 ล้านดอลล่าร์

- การส่งออกเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 12% โดยเฉพาะยุโรปและเอเชีย ขณะที่ทุกภูมิภาคของโลกต่างมีการขยายตัว

- รายได้เพิ่มขึ้น 2.8% จากไตรมาส 2 ปี 59 และเมื่อคำนวณตามค่าเงินสกุลกลางจะเพิ่มขึ้น 8.3%

- ในไตรมาสนี้ ยูพีเอสได้ประกาศการร่วมเป็นพันธมิตรกับงานเอ็กซ์โป 2020 ดูไบ ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเอสเอฟเอ็กซ์เพรส บริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของจีน และซื้อกิจการไนท์ไลน์โลจิสติกส์ ซึ่งช่วยเสริมความเป็นผู้นำในตลาดไอร์แลนด์

ซัพพลายเชนและเฟรท

"ธุรกิจซัพพลายเชนและเฟรทยังคงมีแนวโน้มที่ดีในไตรมาสนี้เนื่องจากทีมงานในแต่ละหน่วยธุรกิจกำลังดำเนินการเพื่อเสริมสร้างคุณภาพรายได้ร่วมกับแนวทางการลดค่าใช้จ่าย ผลการดำเนินงานจึงดีขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจเนื่องจากแนวทางการเสริมสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่ายส่งผลให้การดำเนินงานแข็งแกร่งขึ้น" แอ็บนีย์กล่าว

- รายได้เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส 2 ปี 59 เนื่องจากยูพีเอสดำเนินงานได้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า แนวทางการบริหารรายได้ที่แข็งแกร่งขึ้น และสภาวะตลาดที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ

- น้ำหนักการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจฟอร์เวิร์ดดิ้งและเฟรทส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจในตลาดที่ไม่ใช่ค้าปลีกทั้งหมดยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง

- การเติมเต็มสินค้าคงคลังในธุรกิจค้าปลีกและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในธุรกิจอากาศยาน ส่งผลให้การกระจายสินค้ามีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

- Coyote Logistics มีรายได้เติบโตเป็นเลขสองหลัก เนื่องจากการขยายส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง

- กลุ่มธุรกิจทั้งหมดต่างส่งผลให้ผลกำไรจากการดำเนินงานรวมโต 24% รวมส่วนของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นครั้งเดียว

ภาพรวม

ยูพีเอสแจ้งประมาณการผลการดำเนินงานแบบปรับลดซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการบัญชีทั่วไป เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินการปรับปรุงบัญชีโดยหักเบี้ยบำนาญที่ปรับมูลค่าตามราคาตลาดที่จะนำไปรวมในผลการดำเนินงานตามรายงานตามหลักการบัญชีทั่วไป ซึ่งอาจเป็นจำนวนเงินที่สูงพอสมควร

ริชาร์ด เปเรทซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ยูพีเอส กล่าวว่า "ผลประกอบการในไตรมาส 2 เป็นไปตามที่เราคาดหมาย และเรารู้สึกยินดีกับความคืบหน้าของแนวทางกลยุทธ์ที่นำมาใช้ สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 60 ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง"

ประมาณการกำไรต่อหุ้นปรับลดสำหรับปี 60 ทั้งปีของยูพีเอสรวมปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้

- ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและค่าใช้จ่ายต่อเนื่องของแนวทางกลยุทธ์ที่จะมีผลต่อผลประกอบการ

- จำนวนวันทำงานที่น้อยลงหนึ่งวันในไตรมาส 3 ปี 60 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 59 ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นปรับลดไม่เติบโต

- อัตราภาษีสำหรับช่วงครึ่งหลังปี 60 คาดว่าจะอยู่ที่ 35% และไม่รวมอัตราลดหย่อนภาษีในไตรมาส 4 ปี 59 ที่ประมาณ 0.50 ดอลล่าร์ต่อหุ้น

ยูพีเอสยืนยันประมาณการกำไรต่อหุ้นปรับลดสำหรับปี 60 ทั้งปีเท่าเดิม คือระหว่าง 5.80 ดอลล่าร์ ถึง 6.10 ดอลล่าร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลล่าร์ หรือ 0.30 ดอลล่าร์ต่อหุ้นก่อนหักภาษีและปรับตามค่าสกุลเงิน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๕ TRP คว้ารางวัลเกียรติยศ Siamrath Awards 2024 ตอกย้ำ ผู้นำศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของประเทศไทย
๑๑:๔๖ ผถห.PIMO-ไพโม่ อนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น
๑๑:๑๘ การประชุมเตรียมงาน10 รอบ นักษัตรพระราชสมภพ
๑๑:๐๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เชิญชวนช่วยกัน ลด ละ เริ่ม เพื่อโลกยั่งยืน ในงานสัมมนา Go Green 2024 : The Ambition of
๑๐:๑๔ 1 พ.ค. นี้ เตรียมพบกับฟิตเนสแห่งใหม่ ใจกลางศรีนครินทร์ กับบริการครบครัน ใกล้บ้านคุณ BB FITNESS@พาราไดซ์
๑๐:๑๐ HUAWEI Band 9 จับมือ 3 แพลตฟอร์ม Amado Shopping ช่องทางออนไลน์ Lazada และ Shopee ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์
๑๐:๔๙ ห้องอาหาร นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มกับ เทศกาลบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น สุดพิเศษ และ บุฟเฟ่ต์ Carvery Night
๑๐:๓๔ TSPCA จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมสู่สามทศวรรษสวัสดิภาพสัตว์เพื่อก่อเกิด สวัสดิภาพคน
๑๐:๓๒ พด. มุ่งพัฒนาศักยภาพดินในพื้นที่ปลูกพืช GI เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
๑๐:๐๔ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ มอบของบริจาค พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ