(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.25น. ของวันที่ 13/11/60)
แนวโน้มวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560
ความผิดหวังที่สหรัฐอาจจะเลื่อนมาตรการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลออกไปสู่ปี 2562 แทนที่จะนำมาตรการนี้มาใช้ในปี 2561 ประเด็นดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.6% ในสัปดาห์ที่แล้วจนหนุนราคาทองคำปิดบวกในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมาธิการภาษีของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐส่งสัญญาณไม่ยอมรับการยกเลิกการหักภาษีของรัฐบาลกลางสำหรับภาษีรัฐและภาษีท้องถิ่น ซึ่งเป็นการคัดค้านข้อเสนอจากวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันที่จะขึ้นภาษีสำหรับชาวอเมริกันชนชั้นกลางบางส่วน ซึ่งนักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปที่การปฏิรูปภาษีสหรัฐ และประเด็นดังกล่าวได้กดดันตลาดหุ้นสหรัฐให้ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 สัปดาห์ โดยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลบ 0.5% และดัชนี S&P 500 ลดลง 0.21% และดัชนี Nasdaq ลบ 0.2% ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากมีแนวโน้มมากยิ่งขึ้นที่จะหันมาเพิ่มการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อกระจายการลงทุนของตนเองท่ามกลางความกังวลที่ว่า ตลาดหุ้นอาจจะปรับฐานหลังจากตลาดหุ้นพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นมาแล้ว 16% จากช่วงต้นปีนี้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นไม่มาก เพราะความต้องการทองคำในตลาดส่งมอบปัจจุบันในเอเชียยังคงชะลอตัว แม้ฤดูการแต่งงานในอินเดียกำลังเริ่มขึ้นก็ตาม ประกอบกับ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เขาคาดว่าจะสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม แม้ว่าจะความระมัดระวังต่อปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อต่ำและผลกระทบไม่คาดคิดทางเศรษฐกิจในอนาคต เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือได้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายและการย่อตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้น ราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,285-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะกลางควรรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,266 (19,800บาท) 1,254 (19,600บาท) 1,245 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,285 (20,100บาท) 1,293 (20,250บาท) 1,300 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,266 (19,960บาท) 1,254 (19,770บาท) 1,245 (19,630บาท)
แนวต้าน 1,285 (20,260บาท) 1,293 (20,390บาท) 1,300 (20,500บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999