สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 07 ธันวาคม 2560

พฤหัส ๐๗ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๗:๔๓
สภาวะตลาดวันที่ 07 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,256.00-1,264.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,500 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,660 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 07/12/60)

แนวโน้มวันที่ 08 ธันวาคม 2560

วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐหารือกับสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ เพื่อพยายามตกลงเรื่องร่างกฎหมายภาษี และสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สมาชิกสภาคองเกรสอาจจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องร่างกฎหมายภาษีขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ แนวโน้มดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มจากสกุลเงิน ปอนด์ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ จากความกังวลเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit อาจจะไม่มีการบรรลุข้อตกลงก่อนที่อียูจะจัดประชุมสุดยอดในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยถูกลดความน่าสนใจลง เมื่อนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางในเอเชียเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2561 เพราะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะไม่ขัดขวางการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนนี้ และอีก 2-3 ครั้งในปีหน้า โดยประเมินว่า ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อาจจะขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าและจีนอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า อินเดียและอินโดนีเซียจะขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่ปรับลดในช่วงที่ผ่านมา ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำถูกกดดัน นอกจากนี้แนะนำให้นักลงทุนติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานในเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยดูการสร้างฐานของราคาทองคำบริเวณแนวรับ 1,251 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถตั้งฐานได้อย่างแข็งแกร่ง ยังมีโอกาสเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,265-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับ จะโดนแรงขายออกมาอีกครั้ง ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,252 หรือ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,265-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,251 (19,300บาท) 1,242 (19,150บาท) 1,233 (19,000บาท)

แนวต้าน 1,265 (19,550บาท) 1,276 (19,700บาท) 1,285 (19,850บาท)

GOLD FUTURES (GFZ17)

แนวรับ 1,251 (19,400บาท) 1,242 (19,260บาท) 1,233 (19,120บาท)

แนวต้าน 1,265 (19,630บาท) 1,276 (19,800บาท) 1,285 (19,940บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น