'SAPPE’ โชว์ผลงานปี 60 ทำกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท รับตลาดต่างประเทศเติบโตเด่น ชี้ปี 61 เดินเกมรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ดันการเติบโต 10%

ศุกร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๑๘ ๑๐:๓๐
'บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SAPPE' โชว์ผลประกอบการปี 2560 มีรายได้จากงบการเงินรวม 2,745.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จกับการทำตลาดต่างประเทศทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลกเติบโตได้ดี จากปัจจัยแบรนด์สินค้าที่มีความแข็งแกร่งและคุณภาพสินค้าได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ส่วนตลาดในประเทศยังรักษาอัตราการเติบโตจากความสำเร็จในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โดนใจผู้บริโภค พร้อมตั้งเป้าปี 61 ผลักดันเป้าเติบโต 10-15%

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มุ่งเน้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากงบการเงินรวม 2,745.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2,541.5 ล้านบาท (ไม่รวมผลประกอบการบริษัทย่อยในอินโดนีเซียในปี 17) และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 368 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรที่เกิดขึ้นจากการขายบริษัทย่อยในอินโดนีเซียในปี 17 จำนวน 32.9 ล้านบาท)

ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิที่ดีขึ้น มาจากตลาดต่างประเทศในทุกภูมิภาคทั่วโลกมีการเติบโตด้านยอดขายที่ดี เนื่องจากมีแบรนด์สินค้าของ SAPPE มีความแข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีคุณภาพได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกัน ตลาดในประเทศ ก็ประสบความสำเร็จในการทำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ 'เซ็ปเป้ บิวตี้ ดริ้งค์' สามารถสร้างกระแสและการรับรู้แบรนด์สินค้าไปสู่ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น จากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ได้แก่ 'เซ็ปเป้ บิวตี้ ดริ้งค์' สูตรแอคทีฟ ฟอร์ซ และสูตรรีแล็กซิ่ง คาล์ม ทำให้ภาพรวมยอดขายสินค้าในกลุ่มนี้เติบโตได้ดี

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มของอุตสาหกรรมเรื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามในปี 2561 (Functional Drink) บริษัทฯ ประเมินว่าจะเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน เนื่องจากการผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมหันมานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเน้นจุดขายสูตรน้ำตาลน้อยรับกระแสรักสุขภาพหรือเลือกแนวทางปรับสูตรเครื่องดื่มที่มีอยู่เดิมด้วยการลดปริมาณน้ำตาล ซึ่งสอดรับกับมาตรการจัดเก็บภาษีความหวาน ที่ภาครัฐยังให้เวลาปรับตัวเป็นระยะเวลา 2 ปี ก่อนเริ่มจัดเก็บภาษีจริงในวันที่ 1 ต.ค. 2562

สำหรับแผนดำเนินงานนั้น บริษัทฯ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติมเพื่อรองรับการแข่งขันในช่วงฤดูการขายสินค้า รวมถึงจะเร่งทำกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงแผนขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าด้วยแนวทางดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 เติบโตได้ 10%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๙ PROS จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2567 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติทุกวาระ
๐๙:๔๙ ซีพี - ซีพีเอฟ สนับสนุนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 42 ส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ ตอบแทนคุณแผ่นดิน
๐๙:๑๓ นักวิชาการ TEI แนะมุมมองการสร้าง Urban Climate Resilience ต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
๐๙:๓๙ TEI เปิดวงเสวนา บทเรียนและทางออกการจัดการกากแคดเมียม ? พร้อมเร่งแก้ปัญหา โจทย์ใหญ่กากแคดเมียม จัดการอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง
๐๙:๒๔ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับสตรีที่ด้อยโอกาสในโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ณ
๐๙:๑๑ เขตปทุมวันกำชับเจ้าของพื้นที่ตั้งวางสิ่งของ-อุปกรณ์การค้าริมกำแพงส่วนบุคคลให้เรียบร้อย
๐๙:๓๔ ม.หอการค้าไทย ปฐมนิเทศสำหรับผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านนวัตกรรมการบริการ รุ่นที่ 5 (Top Executive Program for Creative Amazing Thai Services :
๐๙:๐๒ เฮงลิสซิ่ง รับรางวัล หน่วยงานส่งเสริมสุขภาพการเงินพนักงาน ระดับดีเด่น โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
๐๙:๔๕ มูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร
๐๙:๔๔ พาราไดซ์ พาร์ค ต้อนรับ The Little Gym เปิดสาขาที่ 3