(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.25 น. ของวันที่ 29/03/61)
แนวโน้มวันที่ 30 มีนาคม 2561
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวในอัตรา 2.9% สำหรับไตรมาส 4/2560 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 2.5% ตัวเลข GDP ทั้งปีของสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2560 โดยเร่งตัวขึ้นมาจากอัตรา 1.5% ต่อปีในปี 2559 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยว่า ผลกำไรของภาคบริษัทหลังหักภาษีของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 1.7% ในไตรมาส 4 หลังปรับเพิ่มขึ้นที่ 5.7% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขยายตัวในภาคการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.0% ในไตรมาส 4 ซึ่งคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ข้อมูลดังกล่าวสนับสนุนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวรายปีที่ 3% ตามที่คณะบริหารของปธน.ทรัมป์ได้ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ หลังได้รับแรงผลักดันจากแผนการลดภาษี 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และการเพิ่มขึ้นในการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งอาจจะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้นในปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน จนกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง นอกจากนี้ผู้จัดการสินทรัพย์และเงินทุนทั่วโลกปรับสมดุลโพสิชันในช่วงปลายไตรมาสและปลายเดือน ก่อนที่ตลาดเงิน ตลาดทุนในยุโรปและสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) จนกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ให้ปรับขึ้นในปริมาณที่มากกว่าปกติหลังจากร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ที่ 88.942 ในวันช่วงต้นสัปดาห์ เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำพยายามทรงตัวเหนือแนวรับแรก ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้อย่างมั่นคง นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายและการย่อตัวของราคาทองคำ จับตากาสร้างฐานในบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากทรงตัวรักษาระดับไว้ได้นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเพื่อรอทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปอีกครั้ง โดยนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจลดความผันผวนลง คาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามสร้างฐาน โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับแรก นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้อย่างมั่นคง นักลงทุนยังคงต้องระวังการย่อตัวลงของราคาทองคำ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,313 (19,350บาท) 1,306 (19,250บาท) 1,298 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,333 (19,700บาท) 1,346 (19,900บาท) 1,356 (20,050บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888