ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 มติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 14 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.0087 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 2 พ.ค.2561 พร้อมเพิ่มทุนรองรับจากเดิม 1,289,364,969 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน1,381,462,369 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 92,097,400 หุ้น มูลค่าที่ตราไวหุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรับรองการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้น และการรองรับการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ RICHY-W1 และ RICHY-W2 และการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อ 4 ของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2560 (มกราคม-ธันวาคม 2560) มีรายได้รวม 1,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 758.89 ล้านบาท หรือ 138% เทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 568.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ132.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.66 ล้านบาท หรือ 1,335.42% เทียบกับปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 9.26 ล้านบาท
"การจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสดในครั้งนี้ ถือเป็นการตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ และลงทุนใน RICHY ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา และทีมผู้บริหารของบริษัทฯมีความมั่งมั่นที่จะผลักดันให้ธุรกิจของ RICHY เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต" ดร.อาภา กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 3,000 ล้านบาท เตรียมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยมีโครงการที่จะเปิดใหม่ประกอบด้วย เดอะริช ศรีนครินทร์, เดอะริช เอกมัย, และมีอีก 2โครงการ ที่อยู่ระหว่างวางแผนงาน โดยจะเป็นการเปิดโครงการใหม่ไตรมาสละ 1 โครงการ เน้นจับตลาดอสังหาฯ แนวสูงเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเข้ามาเพื่อรองรับการพัฒนา ทำเลย่านลาดพร้าว และราชพฤกษ์ รวมถึงมีโอกาสที่จะเปิดโครงการที่ 5 เป็นโครงการแนวราบ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของ RICHY เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง จากจำนวน Backlog ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเปิดโครงการใหม่
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการตลาดและแคมเปญในปี 2561 นอกจากที่จะเน้นกลุ่มลูกค้าชาวไทยแล้ว บริษัทฯ จะเริ่มเน้นตลาดไฮเอนด์ รวมถึงลุยตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเตรียมแผนเปิดตลาดใหม่ในจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการวางแผนทำการตลาดในระดับ International เพื่อสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน รวมถึงโปรโมทโครงการระดับบนแก่ลูกค้าต่างชาติและลูกค้าไทย High-Profile ตั้งเป้าเขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง