นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด 'ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต' (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจทั้งผลกำไรและรายได้ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 68.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,553ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่ส่งผลดีต่อการเติบโตในไตรมาสแรกปีนี้ มาจากกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นพอร์ตรายได้หลักมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ รพ.ธนบุรี และ รพ.ธนบุรี 2 ที่มีปริมาณคนไข้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพการรักษาและยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีการเพิ่มทีมแพทย์ และศูนย์ตรวจรักษาเพื่อรองรับความต้องการของคนไข้อีกด้วย ส่งผลให้ธุรกิจรักษาพยาบาลในประเทศเติบโตถึง 13.3% ส่วนธุรกิจการรับจ้างบริหารโรงพยาบาลยังดำเนินได้ด้วยดี มีสัญญาใหม่โดยรับเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงพยาบาลในเวียดนาม นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานของ รพ.Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ที่มีผลขาดทุนลดลงหลังจากเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีรายการพิเศษคือกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทอื่นอีกด้วย
"ถือว่าเราสามารถทำผลการดำเนินงานในโค้งแรกของปีนี้ได้ค่อนข้างดี ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะเร่งพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการลงทุนตามแผนงาน พร้อมทั้งมองโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลอย่างเช่นโครงการโรงพยาบาลที่ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และการรับเข้าบริหารศูนย์แพทย์เฉพาะทาง โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา THG ได้เข้ารับบริหารพร้อมเปิดให้บริการศูนย์หัวใจแห่งใหม่ที่โรงพยาบาลพัทลุง ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป" นพ.ธนาธิป กล่าว
นพ.ธนาธิป กล่าวว่า สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการลงทุนในปัจจุบันมีความคืบหน้าตามแผนงาน ได้แก่ 1. โครงการ รพ.ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถ.บำรุงเมือง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จเริ่มเปิดให้บริการบางส่วนได้ในไตรมาส 4/2561 โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการตรวจเช็คสุขภาพ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและศูนย์ทันตกรรม 2. โครงการ Jin Wellbeing County ย่านรังสิต ที่พัฒนาภายใต้คอนเซปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในเฟสแรก โดยในส่วนอาคารชุดพักอาศัยแบบโลว์ไรส์ 7 ชั้น มียอดทำสัญญาจอง ณ สิ้นไตรมาส 1/2561 แล้วมากกว่า 110 ยูนิต จากที่เปิดขายคลัสเตอร์ 1-2 จำนวน 494 ยูนิต ราคายูนิตละประมาณ 4-6 ล้านบาท และ 3. การร่วมทุนในโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ที่การก่อสร้างใกล้เสร็จสิ้น คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ประมาณกลางปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2560 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็น 60% ของกำไรสุทธิปี 2560 แสดงให้เห็นถึงฐานะการเงินที่มั่นคง ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น