กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ท่าทีจากการประชุมครั้งล่าสุด เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ ขณะที่ตลาดสัญญาล่วงหน้าบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและมีโอกาส 70% ที่จะปรับขึ้นอีกในเดือนธันวาคมโดยเฟดยังคงมีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน แม้ประธานาธิบดีทรัมป์เคยวิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ย อนึ่ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงในปี 2562 ขณะที่แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังกำลังหมดไป นอกจากนี้ นักลงทุนจะติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงตลาดพันธบัตรอิตาลี
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในวันที่ 8 สิงหาคม ด้วยเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ และเป็นอีกครั้งที่น่าสนใจว่า กนง.จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะถัดไปเพื่อสร้าง Policy Space หรือขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายไว้สำหรับเวลาที่จำเป็นหรือไม่ โดยเรายังคงมองว่าดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 1.75% ช่วงปลายปีนี้ ส่วนรมว.คลังแสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตถึง 5% หากเอกชนเร่งการลงทุน และมองว่าสงครามการค้ายังไม่กระทบการส่งออกไทยในปีนี้โดยอาจจะเริ่มเห็นผลกระทบบ้างในปี 2562 แต่ระบุว่ายังไม่เห็นความจำเป็นที่ดอกเบี้ยนโยบายจะต้องปรับขึ้นภายในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าเงินเฟ้อจะเข้าสู่ขอบล่างของกรอบเป้าหมายมา 4 เดือนติดต่อกัน แต่ยังไม่ถึงค่ากลางของกรอบซึ่งกำหนดไว้ที่ 2.5%