กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนรอบล่าสุดเพื่อยุติสงครามการค้า ทั้งนี้ การเจรจาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยทั้งสองฝ่ายระบุตรงกันว่าการต่อรองในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความคืบหน้าสู่การคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า ขณะที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาขยายกำหนดเวลาเส้นตายที่ต้องขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวันที่ 1 มีนาคมนี้ออกไปอีก 60 วัน นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับรายงานการประชุมเฟดเพื่อหาข้อยืนยันว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลภายในปีนี้หรือไม่ ความคาดหวังจากปัจจัยข้างต้นดังกล่าว เพิ่มโอกาสที่กระแสเงินทุนจะไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงและตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทยในระยะนี้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ จีดีพีไตรมาส 4/61 ของไทยเติบโตสูงกว่าคาดที่ 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจปี 2562 จะเติบโต 3.5-4.5% ทางด้านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าเงินบาทที่แข็งค่าเกิดจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยไม่ใช่การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือนธันวาคม 2561 โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมเข้าดูแลหากพบความเคลื่อนไหวผิดปกติ ทั้งนี้ ตลาดจะติดตามรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และตัวเลขส่งออกนำเข้าของไทยเดือนมกราคม เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยต่อไป