กรมบัญชีกลางรายงานผลการใช้จ่ายเงินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

พฤหัส ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๖:๐๑
กรมบัญชีกลางรายงานผลการใช้จ่ายเงินของผู้มีสิทธิที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านราย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มียอดการใช้จ่ายของผู้มีสิทธิที่ได้รับสิทธิช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 76,802.78 ล้านบาท

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ จำนวน 14.5 ล้านราย (ผู้ที่ลงทะเบียนในปี 2560 และลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 รวมทั้งสิ้น 76,802.78 ล้านบาท โดยมีการใช้สิทธิผ่านวงเงินสวัสดิการแห่งรัฐ แบ่งเป็น ใช้จ่ายที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ/ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง/ร้านถุงเงินประชารัฐ 55,381.72 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 127.43 ล้านบาท รถไฟฟ้า (รฟม.) 31.72 ล้านบาท รถ บขส. 202.77 ล้านบาท รถไฟ 358.84 ล้านบาท และรถ ขสมก. 0.23 ล้านบาท และมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นเงิน 5,059.95 ล้านบาท รวมถึงการปรับการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเงิน 4,898.21 ล้านบาท เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ถือบัตรสามารถมีระยะเวลาในการใช้จ่ายสอดคล้องกับความต้องการ และสามารถสะสมเงิน (e-Money) ไว้ใช้จ่ายเมื่อจำเป็น หรือสะสมไว้เป็นเงินออมในบัตรได้ รวมทั้งยังสามารถนำไปซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมมาตรการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรับเงินคืน 5% ได้อีกด้วย

สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 มาตรการ กรมบัญชีกลางได้โอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ของผู้มีสิทธิ ประกอบด้วย มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปี 7,148.13 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่อยู่อาศัย 247.11 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลแก่ผู้สูงอายุ 3,175.94 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา 146.99 ล้านบาท

นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้โอนเงินมาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีรายได้น้อยได้ชำระแบ่งเป็น 5% โอนเข้ากระเป๋า e-Money เป็นเงิน 20.02 ล้านบาท และ 1% เพื่อการออม โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน (ผู้มีสิทธิอาชีพอื่นนอกเหนือจากเกษตรกรและรับจ้างทางการเกษตร) เป็นเงิน 3.37 ล้านบาท บัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. (ผู้มีสิทธิอาชีพเกษตรกรและรับจ้างทางการเกษตร) เป็นเงิน 0.35 ล้านบาท

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในชีวิตประจำวันของผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างรากฐานการออมในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้มีเงินเก็บสำหรับการใช้จ่ายในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา