กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การแถลงนโยบายของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสวันที่ 10-11 ก.ค. บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลตลาดแรงงานที่สดใสเกินคาดบ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยลงที่เฟดจะลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมสิ้นเดือนนี้ ในขณะเดียวกันนักลงทุนคาดว่าหากรัฐสภายุโรปอนุมัติการเสนอชื่อคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คนใหม่ตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป ลาการ์ดจะคงท่าทีนโยบายแบบผ่อนคลายของอีซีบีต่อไป โดยการที่ผู้มีความเห็นสายเหยี่ยวอย่างเจนส์ วีดด์แมน ประธานธนาคารกลางเยอรมนีไม่ได้มารับตำแหน่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของหลายประเทศในเขตยูโรโซนทำสถิติต่ำสุดใหม่ ขณะที่การสานต่อนโยบายการเงินสายพิราบอาจจำกัดการฟื้นตัวของเงินยูโรในระยะถัดไป
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ธปท.คาดว่าจีดีพีในไตรมาส 2/2562 อาจขยายตัวต่ำกว่า 3% แต่ในครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตได้ 3-4% จากภาคส่งออกและท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับฐานที่ต่ำของปี 2561 ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ 3.3% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่ได้ย่ำแย่ อย่างไรก็ดี กนง.ยังไม่ปิดช่องในการลดดอกเบี้ยในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางแผ่วลงและการส่งออกที่ชะลอตัวส่งผลต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรวมถึงการลงทุนภาคเอกชน โดยเราประเมินว่ากนง.จะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตลอดปีนี้ เพื่อเก็บกระสุนไว้สำหรับกรณีเศรษฐกิจซบเซามากกว่าที่คาด อนึ่ง แม้โอกาสที่กนง.จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มมีมากขึ้นบ้างแต่ยังไม่ใช่กรณีฐานของเรา