SIRI เผยยอดโอนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุด 28,200 ล้านบาท โต 161% ครึ่งแรกปี 63 รายได้รวม 17,900 ลบ. โดยรายได้จากการขายQ2 ทุบนิวไฮ 10,300 ลบ. โต 312%

จันทร์ ๑๗ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๒:๑๙
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทมีรายได้รวม 11,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,300 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 71% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 6,600 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 17,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
SIRI เผยยอดโอนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุด 28,200 ล้านบาท โต 161% ครึ่งแรกปี 63 รายได้รวม 17,900 ลบ. โดยรายได้จากการขายQ2 ทุบนิวไฮ 10,300 ลบ. โต 312%

ขณะที่รายได้จากการขายในช่วงไตรมาส 2 เติบโตโดดเด่นที่สุด ทุบสถิติ New High Record ที่ 10,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 312% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,500 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 91% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้จากการขาย 5,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 6,300 ล้านบาท และรายได้จากคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 61 : 39 ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้จากการขาย 15,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 112% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 9,400 ล้านบาท และรายได้จากคอนโดมิเนียม 6,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60 : 40 นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกำไรสุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 260 ล้านบาท

“บริษัทมีผลงานการโอนที่โดดเด่นในครึ่งปีแรก โดยล่าสุดบริษัทมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 28,200 ล้านบาทแบ่งเป็นยอดโอนเฉพาะไตรมาสที่ 2 สูงถึง 25,200 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ ทั้งในรอบครึ่งปีและรายไตรมาสตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเป็นผลมาจากการส่งมอบโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่มากขึ้น ในสัดส่วน 40 : 60 นอกจากนี้บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) (รวมโครงการร่วมทุนในคอนโดมิเนียม) มูลค่ารวมประมาณ 54,100 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายรอโอนจากโครงการภายใต้การพัฒนาของแสนสิริ 40,000 ล้านบาท และยอดขายรอโอนจากโครงการภายใต้การร่วมทุนอีก 14,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้แสนสิริเป็นอย่างดีและเสริมความแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งรองรับการสร้างผลงานการโอนให้เป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้ 42,000 ล้านบาท” นายวันจักร์ กล่าว

สำหรับยอดขาย (Presale) ในช่วง 7 เดือนของปี 2563 บริษัทมียอดขายรวมแล้วกว่า 25,000 ล้านบาท คิดเป็น 70% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปี 35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบถึง 16,200 ล้านบาท เติบโต 110% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 85% ของเป้าหมายยอดขายแนวราบทั้งปีที่ตั้งไว้ 19,000 ล้านบาท เป็นผลจากการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Sansiri Housing Evolution ที่สามารถตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกบ้านได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังส่งผลให้สามารถปิดการขายโครงการแนวราบไปได้ถึง 13 โครงการ รวมทั้งยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมอีกจำนวน 8,800 ล้านบาท

“กุญแจสำคัญ ซึ่งจะผลักดันสู่ผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลังคือการบริหารเงินสดในมือที่ดี (Cash is King) ที่จะส่งผลให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูง มีกระแสเงินสดที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมีสภาพคล่องในมือรวม 12,000 ล้านบาท ที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์ นอกจากนี้การดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดที่เป็นหัวใจสำคัญของแสนสิริ (แสนสิริ เซอร์วิส) จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า อันจะส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนที่ดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันแสนสิริ ให้บรรลุเป้าหมายการโอน สู่การสร้างรายได้ที่ดีต่อเนื่องในปีนี้มาจากแผนการโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ อีก 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 16,200 ล้านบาท ได้แก่ เดอะ เบส สะพานใหม่ เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการวันที่ 21 – 23 สิงหาคมนี้ ,โอกะ เฮาส์ เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการวันที่ 18 – 20 กันยายน, XT เอกมัย เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการวันที่ 2 – 4 ตุลาคม, ลา ฮาบานา หัวหิน เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการวันที่ 16 – 18 ตุลาคม และดีคอนโด ธาร จรัญฯ เริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2563

ด้านแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ จากยอดขายโครงการแนวราบที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทจึงมีแผนโฟกัสโครงการแนวราบต่อเนื่อง โดยการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 อีกจำนวน 10 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 11,700 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด Sansiri Housing Evaluation ซึ่งเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการ แบ่งการพัฒนาเป็นการเปิดตัวบ้านเดี่ยว จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,500 ล้านบาท บ้านและทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ อณาสิริ 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท และทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส ในชื่อและทำเล “เดอะ เบส อีส-บางแค” มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 26 – 27 กันยายนนี้อีกด้วย” นายวันจักร์ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง