ซินเน็คฯ สุดฮอต Q2/63 กำไรสุทธิโต 40% รับอานิสงส์ยุคเทคโนโลยีบูม ด้านบอร์ดใจป้ำจ่ายปันผล 0.14 บ./หุ้น

ศุกร์ ๒๑ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๕๓
ซินเน็คฯ เผย Q2/63 ร้อนแรง กำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท โตเกือบร้อยละ 40 รายได้จากการขายและให้บริการ 8,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 รับปัจจัยบวกสินค้าไอทีเป็นที่ต้องการสูงจับกระแสสินค้า Work From Home ในช่วง COVID-19 ควบคู่การขยายพอร์ตนำสินค้าใหม่เข้ามาสนับสนุนและบุกตลาดเกมมิ่ง นำบิ๊กแบรนด์เข้ามาเสริมทัพ หนุนซินเน็คเป็นดิสทริบิวเตอร์ไอทีเบอร์ 1 ในประเทศไทยได้อย่างไรข้อกังขา ประกอบกับครึ่งปีหลังได้อานิสงส์สินค้ากลุ่ม 5G และสินค้าใหม่เปิดตัว เป็นช่วง ไฮซีซั่นของธุรกิจ แถมล่าสุดบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดจ่าย 8 กันยายนนี้ ตอกย้ำภาพรวมธุรกิจไอทีอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน
ซินเน็คฯ สุดฮอต Q2/63 กำไรสุทธิโต 40% รับอานิสงส์ยุคเทคโนโลยีบูม ด้านบอร์ดใจป้ำจ่ายปันผล 0.14 บ./หุ้น

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2/2563 เติบโตอย่างโดดเด่น แม้อยู่ในท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก แต่พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจไอทีและเทคโนโลยีมีความจำเป็น และเป็นที่ต้องการสูงในช่วงเวลาดังกล่าว ซินเน็คฯ ในฐานะดิสทริบิวเตอร์ไอทีอันดับหนึ่งของประเทศไทย เรามีความพร้อมในการนำเสนอสินค้าและบริการทุกช่องทาง ควบคู่การบริหารจัดการภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลประกอบการที่ออกมาเติบโตอย่างน่าประทับใจได้

โดยในงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท หรือร้อยละ 40 จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการขายและให้บริการ 8,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 812 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 และมีกำไรขั้นต้น 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท หรือร้อยละ 14 เนื่องจากการเติบโตจากยอดขายของสินค้าในกลุ่มสินค้าประเภทอุปกรณ์สื่อสาร กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และกลุ่นสินค้าเกมมิ่ง ตลอดจนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการของตลาด รวมถึงการให้บริการเต็มรูปแบบทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

ส่งผลให้รายได้และผลการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในช่วงกลางไตรมาส จากความต้องการสินค้าไอทีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการทำงาน และใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริหาร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและสร้างโอกาสการเจริญเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

ขณะที่ ผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือนของปี 2563 มีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 16,024 ล้านบาท ลดลง 1,411 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในช่วงไตรมาสแรกของปี แต่ยอดขายฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสสองภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 298 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ประมาณ 5 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 จากปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายในอัตราที่เหมาะสม

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 26 สิงหาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผล 8 กันยายน 2563 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุน

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 สินค้าไอทีได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Work From Home ได้แก่ Notebook, iPad, อุปกรณ์ Home Networking และ VDO จากสถานการณ์ COVID-19 กระตุ้นความต้องการซื้อ ควบคู่กับยอดขายออนไลน์ที่บริษัทเป็น official store ให้กับหลากหลายแบรนด์ชั้นนำเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการจัดจำหน่ายสินค้าครบวงจร พร้อมบริการหลังการขาย และความสามารถในการทำกำไรที่ดี รวมถึง สัดส่วนรายได้จากสินค้า Apple เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ภาพรวมตลาดเกมในประเทศไทยยังคงเติบโตได้ร้อนแรง ซินเน็คฯ ได้ขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มเกมมิ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ แบรนด์ Razer และ EPOS สนับสนุนให้บริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดเกมมิ่งที่ครองมาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครวมกับเกมมิ่งเกียร์เบอร์ 1 ในประเทศ” นางสาวสุธิดา กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซินเน็คฯ ได้รับอานิสงส์จากการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G ในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้ง การเปิดตัวของสินค้าใหม่กระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจของทุกปี พร้อมทั้ง การขยายพอร์ตนำสินค้าที่มีศักยภาพเข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวแคมเปญ “Synnex Double Protection” มอบความคุ้มครองพิเศษให้กับลูกค้า โดยให้ระยะเวลารับประกันสินค้าเพิ่มอีก 1 เดือน และมอบประกันอุบัติเหตุคุ้มครองโดย AIG เมื่อซื้อสินค้าที่มีสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร เพิ่มความครบวงจรทั้งบริการก่อนและหลังการขาย สร้างความแตกต่าง และตอกย้ำในฐานะผู้นำในตลาดนี้

“ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แม้สถานการณ์ของโควิด-19 จะกระทบภาพรวมธุรกิจในประเทศไทย แต่สินค้าไอทียังเติบโตและมีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นนิวนอร์มอลที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น หลังจากนี้ ซินเน็คฯ มองแนวโน้มครึ่งปีหลังได้รับปัจจัยบวกจาก 5G เข้ามาสนับสนุน สินค้าใหม่จะทยอยเปิดตัว และเชื่อจะได้รับการตอบรับต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า” นางสาวสุธิดา กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา
๑๗:๐๒ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานชัยนาทร่วมออกหน่วยให้บริการโครงการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน
๑๗:๐๒ วว. /สปอว. /APCTT จัด Workshop การจัดการขยะมูลฝอยชุมชนอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
๑๗:๐๐ บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV จัดการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
๑๗:๕๓ คณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม เปิดอบรม Generative AI เสริมทักษะนักกฎหมายยุคดิจิทัล