นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการมอบรางวัลสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข ระดับประเทศ ประจำปี 2557 ว่าประเทศไทยมีประชาชนที่อยู่ในวัยแรงงานประมาณ 39 ล้านคนประมาณ 14 ล้านคนทำงานในสถานประกอบการ จากข้อมูลสถานการณ์โรคและปัญหาการเจ็บป่วยของของวัยทำงานพบว่ากว่า 1 ใน 11 ของวัยแรงงานเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ 32 รองลงมาเป็นโรคเบาหวานร้อยละ 21 และโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังร้อยละ 18 ส่วนความไม่ปลอดภัยหรืออันตรายจากการทำงานเช่นการได้รับอุบัติเหตุที่มือ การหกล้มหรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางสายตา พบว่ามีประมาณร้อยละ 2
กรมควบคุมโรคโดยสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม สำนักโรคไม่ติดต่อและสำนักงานป้องกันควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “สถานประกอบการ ปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข” ขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคในสถานประกอบการโดยมีการดำเนินงานที่สำคัญใน 3 เรื่อง คือ 1.ปลอดโรค ทำอย่างไรไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บในวัยทำงาน เช่นการส่งเสริมให้พนักงานออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่สมดุล การจัดการความเครียด สถานประกอบการต้องปลอดจากการดื่มสุรา บุหรี่ 2.ความปลอดภัยในการทำงาน ตั้งแต่การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ มีระบบงานที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย การบริหารความเสี่ยง มีระบบการป้องกันอัคคีภัยต่างๆ มีการฝึกซ้อมบ่อยๆ และทำงานอย่างมีความสุขมีการตรวจเช็คสุขภาพต่างๆ และ 3. กายใจเป็นสุขคือการมีสวัสดิการต่างๆ การนันทนาการ อาทิ เรื่องศูนย์เด็กเล็ก นมแม่ ห้องละหมาดของศาสนาอิสลามสำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นภาพรวมทั้งหมดเพื่อให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข โดยในปี 2557 นี้มีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ระดับดีเด่น 13 แห่งเช่น โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บริษัท เฟมิน่า เลซ์ไดย์ เวิร์คส จำกัด จ.ชัยนาท เป็นต้น ผ่านเกณฑ์ระดับดี 10 แห่ง เช่น บริษัท บอดี้แฟชั่น จำกัด จ.นครสวรรค์ บริษัท บางกอกรับเบอร์สหรัตน์จำกัด จ.ชัยนาท เป็นต้น
“การที่ประชาชนวัยทำงานจะมีสุขภาพดี ปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข นอกจากจะเป็นความร่วมมือในการดำเนินงานของเจ้าของกิจการ ผู้บริหารและภาครัฐต่างๆแล้ว ประชาชนวัยทำงานก็ต้องหมั่นดูแลสุขภาพตนเอง โดยการมีพฤติกรรมสุขภาพดังนี้ 1.บริโภคอาหารที่สมดุลและตรงเวลา 2.ไม่สูบบุหรี่ 3.ลด ละ เลิกการดื่มสุรา 4.หมั่นออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ3ครั้งๆละไม่ต่ำกว่า 30 นาที 5.พักผ่อนให้เพียงพอไม่หักโหมงานจนเกินไป 6.ถ้าทำได้ ควรเปิดหน้าต่างสำนักงาน เพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทอย่างน้อยในตอนเช้าที่อากาศยังไม่ร้อนมากและตอนพักกลางวัน 7.ปรับอารมณ์พยายามไม่เครียดผ่อนคลาย และ 8. ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี” นายแพทย์โสภณ กล่าว
นายฮิโระชิ โทะริอิ กรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริหารบริษัทเอ็กเซดดี้ ฟริคชั่น แมททีเรียลจำกัดนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี กล่าวว่าถึงแม้ทางบริษัทจะมีระบบการดูแลสุขภาพของพนักงานตามสิทธิทางกฎหมายที่ควรได้รับแล้ว ทางบริษัทยังเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสุขภาพของพนักงานด้วย จึงเข้าร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2556 โดยได้รับคำแนะนำจากสาธารณสุข จ.ชลบุรี ให้มีการตรวจคัดกรองโรคเรื้อรังต่างๆและโรคทั่วไป หากพบว่าพนักงานคนไหนมีความเสี่ยง ก็จะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนต่อโรคนั้นๆ หลังจากนั้นทำการตรวจซ้ำอีกที เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนการเฝ้าระวังกลุ่มโรคที่มีการระบาด จะมีการตรวจคัดกรองพนักงานก่อนที่จะเริ่มทำงาน หากมีพนักงานป่วยจะทำการเก็บข้อมูลประวัติว่าป่วยเป็นโรคอะไร ควรหยุดงานหรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้เชื้อโรคนั้นแพร่กระจายสู่พนักงานคนอื่น ด้านความปลอดภัยจะมีการให้ความรู้ความเข้าใจกับพนักงาน มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการกำจัดแมลงหรือสัตว์ อย่าง มด หนู แมลงสาบ ที่รบกวนหรือเป็นปัญหาต่อการทำงานและนำโรค และด้านความสุขทางบริษัทจะมีการมอบรางวัลให้แก่พนักงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน มีการจัดเลี้ยงรับประทานอาหารร่วมกัน รวมถึงการร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ด้วย เช่นการมอบอุปกรณ์กีฬา การทาสีโรงเรียน ฯลฯ
นายวรพจน์ แซ่ลิ่ม ผู้จัดการส่วนคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่าขณะนี้ในบริษัทมีบุคลากรประมาณ 336 คน ทางบริษัทได้เข้าร่วมโครงการสถานประกอบการปลอดโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข เพราะผู้บริหารเห็นความสำคัญในเรื่องสุขภาพของทรัพยากรบุคคลโดยแบ่งการจัดการเป็น 2 ส่วน คือ 1.การป้องกันไม่ให้พนักงานมีการเจ็บป่วย โดยเฉพาะจากการทำงาน เริ่มตั้งแต่การประเมินความเสี่ยง การเตรียมการจัดการกับความเสี่ยงทั้งหมด รวมถึงแผนการตอบสนอง และ 2.เป็นการส่งเสริมสุขภาพ นอกจากการไม่เจ็บป่วยแล้ว สุขภาพควรจะดีขึ้นโดยมองว่าพนักงานควรได้รับสวัสดิการอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อประเมินและพัฒนาส่งเสริมสุขภาพให้แก่พนักงานต่อไป ซึ่งคำว่าปลอดโรคเป็นตัวนำให้พนักงานมีความรู้ในการดูแลสุขภาพ รู้ถึงปัญหาและสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บได้ชัดเจน สามารถนำเสนอข้อมูลเหล่านั้นให้ผู้บริหารรับทราบ จนเกิดนโยบายต่างๆและเกิดการรณรงค์ ส่งเสริมสุขภาพให้พนักงาน โดยที่พนักงานรู้ว่าบริษัทเอาใจใส่และดูแล เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพดีและทำงานอย่างมีความสุข การเข้าร่วมโครงการนี้จึงสามารถส่งเสริมในเรื่องสุขภาพของพนักงานได้เป็นอย่างดี เพราะสุขภาพเป็นเรื่องที่แฝงไว้กับความปลอดภัยจากการทำงานด้วย
นางกรพินธุ์ พนาสันติภาพ ผู้จัดการฝ่ายบริหาร บจก.ไทยเอ็นเนอร์ยี คอนเซอร์เวชัน จำกัด อ.เมือง สุพรรณบุรี กล่าวว่าบริษัทมีพนักงานประมาณ 165 คน พนักงานส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน ผู้ชายชอบสูบบุหรี่ ทางบริษัทจะดูแลพนักงานอย่างพี่น้องเป็นลักษณะครอบครัว ทั้งเรื่องงานและการให้คำปรึกษา แนะนำในเรื่องครอบครัว จึงมีความใกล้ชิดกับพนังงาน ส่วนสวัสดิการด้านการดูแลรักษาสุขภาพจะดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด การคัดกรองสุขภาพส่วนใหญ่จะใช้วิธีสังเกตอาการ การสอบถามจากพนักงานโดยตรง หากมีการเจ็บป่วยก็จะให้การรักษาเบื้องต้น และมีการดูแลค่าใช้จ่ายตามสิทธิทางกฎหมายที่พนักงานควรได้รับ แต่เมื่อมีโครงการนี้ทำให้ทางบริษัทมีข้อมูลและมีตัวชี้วัดการดำเนินงานในเรื่องสุขภาพที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้มีกิจกรรมดีๆที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องสุขภาพ ทำให้พนักงานมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์ ส่วนเรื่องความปลอดภัยทางบริษัทมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว การใส่ใจพนักงานให้ปลอดโรค ปลอดภัย และกายใจเป็นสุข ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทางบริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะหากพนักงานสุขภาพดี ก็จะส่งผลให้ทุกสิ่งดีขึ้นตามมา ส่งผลให้ผลการทำงานออกมาดีและสังคมก็มีคุณภาพด้วย