นายชัยนันท์ แย้มสอาด ผู้อำนวยการบริหาร โรงพยาบาลแพทย์รังสิต เปิดเผยว่า โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนรายแรกในย่านรังสิต-ปทุมธานี ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลากว่า 29 ปี และเพื่อเป็นการก้าวสู่ปีที่ 30 อย่างสวยงาม ทางโรงพยาบาลจึงได้เตรียมทำ Re – Branding ครั้งใหญ่และถือเป็นครั้งแรก เพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย สมบูรณ์แบบ คาดว่าจะใช้งบประมาณ ราว 15 – 20 ล้านบาท สำหรับ Re-Branding และการทำการตลาดในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้นได้ทำการปรับเปลี่ยนโลโก้ ที่ใช้ในสื่อต่างๆของทางโรงพยาบาล หลังจากนั้นจะทยอยเปลี่ยนในเรื่องของ ยูนิฟอร์มพนักงานซึ่งในส่วนของการทำ Re Branding นั้นจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อเตรียมฉลองสู่ปี 30 ของโรงพยาบาลในปี 2559
“โรงพยาบาลเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2529 มีอาคารผู้ป่วยเพียง 1 อาคาร ซึ่งอัตราการเข้ามาใช้บริการของผู้ป่วยในช่วงนั้นจากที่มีเพียงไม่กี่ร้อยคนก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราตัดสินใจสร้างอาคารเพิ่มอีก 1 อาคารเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มาใช้บริการให้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด รองรับผู้ป่วยได้ 155 เตียง ต่อมาในปี 2554 โรงพยาบาลก็ได้เปิดให้บริการ “โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต” รองรับผู้ป่วยได้ 56 เตียง ถือเป็นการให้บริการรักษาที่เป็นจุดเด่น เรามีคณะแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ”
ปัจจุบันโรงพยาบาลแพทย์รังสิตได้ให้การรักษาแบบครบวงจร พรั่งพร้อมด้วยบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย จากเมื่อก่อนหากมีผู้ป่วยหนัก อาทิ ผู้ป่วยโรคหัวใจเข้ามารับการรักษาเราจำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยบาลที่ใหญ่กว่า แต่ในปัจจุบันเราได้เปิดศูนย์ “Heart Center” หรือศูนย์หัวใจครบวงจรในปีที่ผ่านมาสามารถให้บริการได้ทัดเทียมกับโรงพยาบาลชั้นนำมีห้อง CCU (Coronary Care Unit หรือ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยหนักเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด) เพื่อรองรับผู้ป่วยด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งการเปิดให้บริการศูนย์ฯดังกล่าวยังทำให้ทางโรงพยาบาลสามารถรับการส่งต่อผู้ป่วยโรคหัวใจจากโรงพยาบาลชุมชนของจังหวัดปทุมธานีได้ด้วย
นอกจากความพร้อมในการการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแล้ว ทางโรงพยาบาลยังเป็นศูนย์ล้างไตที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ป่วยในย่านรังสิต – ปทุมธานี รวมถึงปริมณฑลตอนเหนือด้วย โดยปัจจุบันทางแพทย์รังสิตมีเครื่องล้างไตอยู่ทั้งสิ้น 25 เตียง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยที่ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องโรคไตมากขึ้น อย่างไรก็ตามในอนาคตทางโรงพยาบาลมีแผนที่จะเพิ่มเครื่องล้างไตเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยมากยิ่งขึ้นด้วย
ผู้อำนวยการบริหาร โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ยังกล่าวด้วยว่าสำหรับในปีนี้ทางโรงพยาบาลได้เปิดให้บริการแพทย์แผนทางเลือกอาทิตย์ละ 2 วัน เป็นบริการฝังเข็มกับแพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาอาการต่าง ๆเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเข้ารับบริการ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ป่วยที่มาใช้บริการ คาดว่าจะเพิ่มจำนวนวันในการให้บริการตามความต้องการขอลูกค้า ซึ่งการเปิดบริการแพทย์แผนทางเลือกนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายการให้บริการด้านอื่นต่อไปในอนาคต สุขภาพและผิวพรรณ
“ปัจจุบันโรงพยาบาลมีผู้ป่วยเข้าใช้บริการเฉลี่ย 2,000 คนต่อวัน หรือประมาณ 60,000 คนต่อเดือน โดยเป็นคนไข้ที่เป็นผู้ประกันตน(ประกันสังคม)ประมาณ 75% และคนไข้กลุ่มที่จ่ายเงินสดอยู่ประมาณ 25% ในขณะที่อัตราการเติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10%”
และเพื่อเป็นการคิกออฟการ Re-Branding และการเดินหน้าทำการตลาดแบบเต็มรูปแบบ ทางแพทย์รังสิตก็ได้เริ่มทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยวันที่ 22 มีนาคม 2558 นี้จะจัดกิจกรรม เดิน-วิ่งการกุศล “PatRangsit Mini-Half Marathon : run for the better vision” รายได้ส่วนหนึ่งสบทบทุนหน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรม สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคต้อกระจก ซึ่งจะเป็นอีเว้นท์ประจำปี ของทางโรงพยาบาล และในส่วนนี้เองเชื่อว่าจะทำให้คนรู้จักโรงพยาบาลแพทย์รังสิตมากขึ้น
อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลก็มีแผนที่จะขยายโรงพยาบาลด้วยการเพิ่มอาคารผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 1 อาคาร บนเนื้อที่ 3 ไร่ ที่ทางโรงพยาบาลได้ซื้อดินเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง เพราะพื้นที่นี้อยู่ติดกับสนามบินก็จะมีข้อกำหนดต่างๆค่อนข้างมาก ซึ่งเราวางแผนว่าการขออนุญาตหากผ่านคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 ปี โดยคาดว่าจะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 11 ชั้นรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 150 – 200 เตียง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จก็จะแยกผู้ป่วยประกันตนออกจากผู้ป่วยเงินสดเพื่อความสะดวกสบายของคนไข้ที่มารับบริการ
ผู้อำนวยการบริหารโรงพยาบาลแพทย์รังสิตยังกล่าวถึงการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลในย่าน รังสิต – ปทุมธานี ด้วยว่า การแข่งขันในย่านนี้ก็เริ่มมีสูงขึ้น เร็วๆนี้ก็จะมีโรงพยาบาลเปาโลมาเปิด แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับทางเรา เพราะจุดแข็งของเราอยู่ที่ราคาและการรักษาที่มีมาตรฐาน เรามีชื่อเสียงจากการให้บริการที่ดี คนรู้จักแพทย์รังสิตแบบปากต่อปาก อีกทั้งเราเตรียมที่จะทำการตลาดแบบเต็มรูปแบบทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Media และจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น คาดว่าจะทำให้เราสามารถเพิ่มผู้ใช้บริการรายใหม่ๆได้มากขึ้นด้วย”