นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า ระบบการแพทย์ฉุกเฉินไทยถือว่ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีเครือข่ายภาคีการแพทย์ฉุกเฉินเพิ่มขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น องค์กรการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร มีการจัดทำมาตรฐานและวิธีการปฏิบัติการฉุกเฉินของระบบปฏิบัติการฉุกเฉิน มีการสนับสนุนการจัดตั้งชุดปฏิบัติการฉุกเฉินให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ การพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการประจำจังหวัด การผลิตและพัฒนาผู้ปฏิบัติการ การส่งเสริมให้มีอาสาฉุกเฉินชุมชุนเพื่อช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นและสามารถแจ้งเหตุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าระบบการแพทย์ฉุกเฉินจะได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการวิจัยและรายงานต่างๆ ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาต่อไปและจะต้องมีการเชื่อมโยงการพัฒนาให้เป็นระบบและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องคุณภาพของการปฏิบัติการฉุกเฉิน ความไม่เพียงพอของจำนวนผู้ปฏิบัติการในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การเข้าถึงการบริการ การดำเนินการและการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การมีส่วนร่วมของหน่วยงาน องค์กร และภาคส่วนต่าง ๆ ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ สพฉ. จึงได้จัดให้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวเพื่อเชื่อมห่วงโซ่คุณภาพการแพทย์ฉุกเฉินไทยให้ได้มากที่สุด รวมทั้งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และนำเสนอความคิดเห็นเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินต่อไป
สำหรับการประชุมในครั้งนี้จะแบ่งเป็นเรื่องการเชื่อมห่วงโซ่คุณภาพการแพทย์ฉุกเฉินใน 7 ประเด็นหลัก คือ 1. การเชื่อมห่วงโซ่ระบบการแพทย์ฉุกเฉินในภาวะปกติและภัยพิบัติ 2.การเชื่อมห่วงโซ่การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ทั้งการป้องกันการเกิดเหตุ การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินในโรงพยาบาล และการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาล 3.การเชื่อมห่วงโซ่การทำงานระหว่างกู้ชีพ กู้ภัย อาสาสมัคร และท้องถิ่น 4.การเชื่อมห่วงโซ่ระบบการแพทย์ฉุกเฉินระหว่างไทยและสากล 5.การเชื่อมห่วงโซ่งานวิจัยสู่นโยบายและการปฏิบัติการ 6.การเชื่อมห่วงโซ่ระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศการแพทย์ฉุกเฉิน และ 7.การเชื่อมห่วงโซ่การผลิตและการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉิน
นพ.อนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากการประชุมทางวิชาการแล้ว ภายในงานยังมีนิทรรศการการแพทย์ฉุกเฉิน และกิจกรรมเวิร์คชอบ อาทิ การสาธิตการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ การนำเสนอผลงานของหน่วยงานที่ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปี อีกทั้งยังมีการมอบโล่รางวัล และเข็มเชิดชูเกียรติให้กับผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ฉุกเฉินด้วย ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินหรือผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมหรือ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.niems.go.th ภายในวันที่ 13 มีนาคมนี้ หรือโทร 02-8721603
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thaiemsinfo.com/autopagev4/show_page.php?topic_id=556&auto_id=8&TopicPk=