นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงยอดการเข้ารับบริการผ่านสายด่วน 1669 ในรอบ 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สรุปสถิติประชาชนที่แจ้งขอความช่วยเหลือ ผ่านสายด่วน 1669 และออกปฏิบัติการช่วยผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ แล้วนำส่งโรงพยาบาลรวม 8,732 ครั้ง คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของการนำส่งผู้บาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งถือเป็นจำนวนของการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินที่มาก โดยยานพาหนะที่เป็นสาเหตุของการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดของประชาชนคือรถมอเตอร์ไซด์ รองลงมาเป็นรถปิคอัพ โดยในส่วนกรณีของรถปิคอัพนั้นนอกจากจะเกิดเหตุจากการขับรถเร็ว หรือขับรถด้วยความประมาทในการเดินทางทั้งไปต่างจังหวัดและกลับเข้ามายังกรุงเทพมหานครในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ยังมีความสูญเสียที่เกิดจากการเล่นน้ำสงกรานต์ผ่านหลังรถกระบะหรือรถปิคอัพและรถมอเตอร์ไซด์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหมู่ที่สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องรณรงค์เรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ผ่านหลังรถปิคอัพรถกระบะและรถมอเตอร์ไซด์กันอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ยังได้รับการพูดถึงน้อย
“จากนี้สพฉ. จะทำการถอดบทเรียนการรับแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและหาแนวทางที่จะใช้รณรงค์เพื่อให้การเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ของประชาชนในปีต่อๆ ไป สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งประชาชนเองก็ต้องนำบทเรียนของแต่ละปีไปศึกษาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับตนเองด้วยเช่นกัน และผมอยากฝากถึงประชาชนที่กำลังจะเตรียมตัวเดินทางกลับเข้ามายังกรุงเทพมหานครอีกชุด ในวันเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ว่าควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮออล์ ปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด และหากขับรถมาแล้วรู้สึกว่าตนเองง่วงก็อย่าฝืนขับ ควรหาที่นอนหลักพักผ่อนให้เต็มอิ่มแล้วค่อยออกเดินทางต่อ ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดพบเห็นเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินระหว่างการเดินทางสามารถโทรแจ้งสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้บริการประชาชนทุกคน”นพ.อนุชากล่าว