คุณแม่ต้องรู้! ค้นพบวิธีคืนภูมิต้านทานโรคให้เด็กผ่าคลอด

พฤหัส ๒๑ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๕:๕๙
การผ่าคลอดเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่คุณแม่ยุคใหม่ให้กำเนิดลูกน้อย ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มที่คุณแม่จำเป็นต้องผ่าคลอดสูงมากขึ้น โดยเฉพาะหากแพทย์มีความเห็นว่าการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติผ่านทางช่องคลอดอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงกับแม่หรือเด็กมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงสำคัญที่พ่อแม่หลายคนอาจยังไม่ทราบ คือ เด็กผ่าคลอดจะขาดโอกาสได้รับภูมิต้านทานตามธรรมชาติผ่านทางช่องคลอด ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้ง่าย ซึ่งการดูแลของคุณพ่อคุณแม่ในแง่การให้โภชนาการที่เหมาะสมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าวนี้

จากการประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 32 ของสมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย "From Diagnosis to Immunotherapy in Allergic Diseases" เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 ณ ห้องเวิลด์ บอลรูม ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ศ.พญ. จรุงจิตร์ งามไพบูลย์ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้ฯและประธานสมาคมฯ กล่าวในการบรรยายเรื่อง "Delayed Colonization of Gut Microbiotics in C-Section Infants: Causes, Consequence & Solutions" ว่า การผ่าคลอดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาภูมิต้านทานในเด็กล่าช้า โดยพบจุลินทรีย์สุขภาพ "บิฟิโดแบคทีเรีย" (Bifidobacteria colonization) ในลำไส้น้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งจุลินทรีย์สุขภาพนี้เป็นภูมิต้านทานตั้งต้นที่ส่งผ่านจากแม่สู่ลูกผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ เพื่อสร้างรากฐานระบบภูมิต้านทาน โดยระบบภูมิต้านทานนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต หากพลาดช่วงโอกาสทองนี้ ระบบภูมิต้านทานอาจไม่สามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพที่ควรจะเป็น

เด็กผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากภูมิต้านทานมากกว่าเด็กคลอดธรรมชาติ ข้อมูลจากสำนักงานทะเบียนราษฎร์ (National Registry) ประเทศเดนมาร์ก ในเด็กจำนวน 1.9 ล้านคน ช่วงอายุแรกเกิดถึง 15 ปี ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1977-2012 พบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่อการมีภูมิต้านทานต่ำ (immune deficiencies) เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 เสี่ยงต่อโรคหอบหืด (asthma) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 และเสี่ยงต่อโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel diseases) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20

อย่างไรก็ตาม โภชนาการในช่วงแรกของชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถกำหนดได้ จะส่งผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว โดยเฉพาะ "นมแม่" ซึ่งมีบทบาทในการเร่งเสริมสร้างภูมิต้านทานที่จำเป็นอย่างยิ่งในเด็กผ่าคลอด เพราะนมแม่มีองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งเสริมภูมิต้านทานหลายชนิด เช่น โพรไบโอติก (จุลินทรีย์สุขภาพ) และ พรีไบโอติก (อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ) ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเร่งเพิ่มปริมาณจุลินทรียสุขภาพในระบบทางเดินอาหารซึ่งมีเซลล์ภูมิต้านทานมากถึงร้อยละ 70 เด็กที่ทานนมแม่จึงมักจะมีจุลินทรีย์สุขภาพมากกว่าเด็กที่ทานนมผสมสูตรทั่วไป ดังนั้นบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานต่างๆ ควรช่วยกันสนับสนุนให้เด็กได้รับนมแม่ให้ได้นานที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากการผ่าคลอด และส่งเสริมระบบภูมิต้านทานตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต

ถึงแม้ว่าทั้งเด็กที่คลอดธรรมชาติและเด็กผ่าคลอดสมควรได้รับนมแม่ล้วนเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนหลังคลอด แต่ในหลายกรณีแม่ไม่สามารถให้นมได้เนื่องจากไม่มีน้ำนมหรือจากสาเหตุอื่นๆ จึงมีการวิจัยวิธีการเสริมจุลินทรีย์สุขภาพให้กับเด็กผ่าคลอด พญ. จรุงจิตร์ กล่าวถึงงานวิจัยที่มีชื่อว่า "จูเลียส (Julius)" ผลงานการวิจัยของ รศ.พญ. วรนุช จงศรีสวัสดิ์ กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับทีมวิจัยจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งศึกษาการให้นมผสมที่เสริมซินไบโอติกในเด็กผ่าคลอดในประเทศไทยและสิงคโปร์ โดยใช้จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิโดแบคทีเรียบ เบรเว่ (บี. เบรเว่) เอ็ม-16วี (Bifidobacterium Breve (B.Breve) M-16V) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่พบมากที่สุดในนมแม่กับใยอาหารพรีไบโอติก 2 ชนิด คือ GOS และ IcFOS ผสมกันในสัดส่วน 9:1 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับพรีไบโอติกในนมแม่ พบว่า ซินไบโอติกช่วยเพิ่มปริมาณบิฟิโดแบคทีเรียในเด็กผ่าคลอดได้ใกล้เคียงกับเด็กที่คลอดธรรมชาติที่ทานนมแม่ อีกทั้งปรับสภาพลำไส้ให้มีสภาพเป็นกรดซึ่งจะช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค และยังพบว่าแนวโน้มการเกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) ลดลงใน 16 สัปดาห์

"ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปีแรกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างภูมต้านทานในเด็ก ดังนั้นพ่อแม่ควรให้ความใส่ใจในโภชนาการเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการให้นมแม่ให้กับเด็กที่ผ่าคลอด ซึ่งต้องการการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษในการเสริมภูมิต้านทานในช่วงแรกของชีวิต เพราะสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงของเด็กจะเป็นต้นทุนสำคัญในการพัฒนาในด้านสติปัญญาและพัฒนาการในด้านอื่นๆที่จำเป็นต่อไป" พญ. จรุงจิตร์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๕ TRP คว้ารางวัลเกียรติยศ Siamrath Awards 2024 ตอกย้ำ ผู้นำศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของประเทศไทย
๑๑:๔๖ ผถห.PIMO-ไพโม่ อนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น
๑๑:๑๘ การประชุมเตรียมงาน10 รอบ นักษัตรพระราชสมภพ
๑๑:๐๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เชิญชวนช่วยกัน ลด ละ เริ่ม เพื่อโลกยั่งยืน ในงานสัมมนา Go Green 2024 : The Ambition of
๑๐:๑๔ 1 พ.ค. นี้ เตรียมพบกับฟิตเนสแห่งใหม่ ใจกลางศรีนครินทร์ กับบริการครบครัน ใกล้บ้านคุณ BB FITNESS@พาราไดซ์
๑๐:๑๐ HUAWEI Band 9 จับมือ 3 แพลตฟอร์ม Amado Shopping ช่องทางออนไลน์ Lazada และ Shopee ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์
๑๐:๔๙ ห้องอาหาร นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มกับ เทศกาลบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น สุดพิเศษ และ บุฟเฟ่ต์ Carvery Night
๑๐:๓๔ TSPCA จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมสู่สามทศวรรษสวัสดิภาพสัตว์เพื่อก่อเกิด สวัสดิภาพคน
๑๐:๓๒ พด. มุ่งพัฒนาศักยภาพดินในพื้นที่ปลูกพืช GI เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
๑๐:๐๔ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ มอบของบริจาค พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ