จริงหรือ! ต้องยุติการตั้งครรภ์หากคุณแม่เป็นโรคลิ้นหัวใจ

อังคาร ๑๕ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๒๙
ความใฝ่ฝันของคุณแม่ทุกคนคือการคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยกันมากคือ หากคุณแม่เป็นโรคลิ้นหัวใจสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่ระดับความรุนแรงของโรคลิ้นหัวใจที่คุณแม่ต้องเผชิญ

นายแพทย์วิฑูรย์ ปิติเกื้อกูล รองผู้อำนวยการศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวถึง สำหรับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์และอยากตั้งครรภ์ หากผู้ป่วยรู้ว่าตนเองเป็นโรคลิ้นหัวใจแล้วยังไม่ได้ตั้งครรภ์ แนะนำว่าให้ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจก่อนตั้งครรภ์ การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจมีให้เลือกใช้หลายชนิด หลักๆ มี 2 แบบคือ ลิ้นหัวใจสังเคราะห์ที่ทำจากโลหะ ที่ต้องทานยาละลายลิ่มเลือดไปตลอดชีวิตอาจส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์และอาจทำให้เด็กพิการได้ และลิ้นหัวใจที่ทำจากเนื้อเยื่อ ต้องทานยาละลายลิ่มเลือดประมาณ 3 เดือนแล้วไม่จำเป็นต้องทานอีกต่อไป แต่อายุการใช้งานของลิ้นหัวใจชนิดเนื้อเยื่อมีประมาณ 10 ปี ดังนั้นถ้าหากลิ้นหัวใจเสื่อม ลิ้นหัวใจรั่ว หรือลิ้นหัวใจตีบเกิดขึ้นอีก ต้องกลับมาผ่าตัดแก้ไขใหม่ แต่หากตั้งครรภ์แล้วพบว่าตนเองเป็นโรคลิ้นหัวใจจะต้องพิจารณาระดับความรุนแรงด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ ถ้าความรุนแรงไม่มากสามารถดูแลครรภ์อย่างใกล้ชิดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าหากอยู่ในระดับที่รุนแรงมากจะต้องพิจารณาจากอายุครรภ์ ถ้าเพิ่งตั้งครรภ์ในช่วง 2-3 เดือนแรก แพทย์อาจยุติการตั้งครรภ์ด้วยการขูดมดลูก แต่ถ้าตั้งครรภ์ไปแล้วประมาณ 5 เดือน แพทย์จะดูแลและให้ยาเพื่อประคับประคองอาการจนเด็กโตพอสมควรคือประมาณ 36 สัปดาห์แล้วจึงทำการผ่าคลอด โดยแพทย์จะบอกถึงความเสี่ยงที่คุณแม่ต้องพบ เช่น การแท้งบุตร เด็กเสียชีวิตขณะอยู่ในครรภ์ เป็นต้น

ระดับความรุนแรงของโรคลิ้นหัวใจที่พบในคุณแม่ สามารถดูได้จากอาการที่ปรากฏเป็นหลัก เรียกว่า Functional Class แบ่งออกเป็น 4 แบบ ได้แก่ Class 1 สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติโดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย หอบเหนื่อย ใจสั่น อาการแน่นหน้าอก Class 2 ขณะทำกิจกรรมหรือออกกำลังมากขึ้นจะเริ่มเหนื่อย ใจสั่น หรือแน่นหน้าอก Class 3 ขณะทำกิจกรรมตามปกติแม้เพียงเล็กน้อยจะเริ่มเหนื่อย ใจสั่น หรือ แน่นหน้าอก เช่น การขึ้นบันไดเพียง 2 ชั้นก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว และ Class 4 แม้ขณะนั่งเฉยๆ หรือนั่งพักจะมีอาการหอบเหนื่อย ใจสั่น หรือแน่นหน้าอก จากข้อมูลหากอยู่ใน Class 1 และ Class 2 ผู้ป่วยสามารถตั้งครรภ์ได้ แต่ระหว่างตั้งครรภ์ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะตั้งครรภ์หัวใจคุณแม่จะสูบฉีดเลือด (Cardiac Output) เพิ่มขึ้นมากกว่าคนปกติถึง 40% เนื่องจากมีเจ้าตัวน้อยในครรภ์ โดยจะเริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์และสูงสุดในช่วงกึ่งกลางการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากคุณแม่ลิ้นหัวใจรั่วมากหรือตีบมากอยู่ใน Class 3 หรือ Class 4 ต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจทันทีเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม หากคุณแม่ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจแล้วตั้งครรภ์ ถ้าเป็นลิ้นหัวใจที่ทำจากเนื้อเยื่อสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นลิ้นหัวใจสังเคราะห์ที่ทำจากโลหะอาจต้องหยุดทานยาละลายลิ่มเลือดแล้วเปลี่ยนไปใช้ยาฉีดตามที่แพทย์สั่ง

คุณผู้หญิงที่มีปัญหาโรคลิ้นหัวใจควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาความเสี่ยงการตั้งครรภ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ การตรวจสุขภาพคุณแม่ก่อนตั้งครรภ์อย่างละเอียด การตรวจหัวใจและหลอดเลือดหัวใจจะช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนการมีเจ้าตัวน้อยได้เป็นอย่างดีและช่วยให้ทั้งคุณแม่คุณลูกมีหัวใจที่แข็งแรง รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-310-3000 หรือ Call center.1719

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา