โรคตาแห้ง อันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์

พุธ ๑๐ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๓๔
ตาแห้ง โรคยอดฮิตที่เป็นกันมากในปัจจุบัน หนึ่งในสาเหตุของตาแห้งที่พบได้บ่อยในปัจจุบันคือการใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ อาการของโรคตาแห้ง ได้แก่ ระคายเคืองตา เหมือนมีเศษผงอยู่ในดวงตา, แสบตาง่าย บางคนอาจมีน้ำตาไหล โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในที่ที่ลมพัดแรงหรืออากาศแห้ง เช่น ในห้องแอร์, เห็นภาพเบลอมากขึ้นเมื่ออ่านหนังสือหรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจ้องมือถือเป็นระยะเวลานานๆ

อาการจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับโรคตาแห้ง เนื่องจากการทำงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นการใช้สายตาในระยะใกล้และต้องใช้สมาธิในการเพ่งหน้าจอ จะส่งผลให้การกะพริบตาลดลง (ใน 1 นาที คนเราควรกระพริบตาประมาณ 10-15 ครั้ง) ประกอบกับการทำงานในห้องแอร์ ซึ่งมีสภาพอากาศที่แห้ง และแสงจ้าจากคอมพิวเตอร์ จะทำให้น้ำตาที่เคลือบผิวตาระเหยได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะหากทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆหลายชั่วโมงโดยไม่พักสายตา จะส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งตามมาได้ หากปล่อยไว้นานจนตาแห้งมากๆ จะส่งผลให้เกิดอาการตาแดง มีการอักเสบของเยื่อตา และกระจกตาเป็นแผลถลอกได้

สาเหตุอื่นๆของโรคตาแห้ง โรคตาแห้งเกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ

1.เกิดจากการที่ต่อมน้ำตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอจากโรคบางชนิด เช่น กลุ่มอาการ Sjogren syndrome เป็นต้น

2.น้ำตามีเพียงพอแต่ระเหยออกจากตาเร็ว เช่น เป็นโรคเปลือกตาอักเสบ มีต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน เป็นภูมิแพ้ ใส่คอนแทคเลนส์ เป็นต้น

3.พบว่า โรคตาแห้งยังสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น, เพศหญิง (พบได้บ่อยกว่าเพศชาย), การอยู่ในสภาพอากาศที่แห้ง มีลมพัดแรง นอกจากนี้ การใช้ยาบางชนิดก็มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ ที่รู้จักกันดีเช่น ยาแก้ภูมิแพ้ เป็นต้น

การดูแลและรักษาโรคตาแห้ง

- หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน โดยใช้กฎ 20-20-20 คือ ทุกๆ 20 นาทีที่จ้องหน้าจอ ให้พักสายตาเป็นระยะเวลานาน 20 วินาที โดยการมองทอดสายตาไปที่ไกลๆกว่า 20 ฟุต

- กะพริบตาบ่อยๆ เพื่อให้มีน้ำตามาเคลือบผิวตาให้ชุ่มชื้น

- หมั่นทำความสะอาดเปลือกตาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีโรคเปลือกตาอักเสบหรือต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน เพื่อลดปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการตาแห้ง

- ใช้น้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา

- การรักษาอื่นๆที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เช่น ยาหยอดลดการอักเสบ, autologous serum, omega-3 supplement, การอุดท่อน้ำตา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาอาการตาแห้ง คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หรือการป้องกัน หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดอาการตาแห้ง หากอาการผิดปกติทางตาก็ควรมาตรวจกับจักษุแพทย์ ไม่ควรปล่อยไว้จนเป็นปัญหาเรื้อรัง และควรตรวจเช็คสุขภาพตาปีละ 1 ครั้งเป็นประจำ

บทความโดย : แพทย์หญิง อุษณีย์ สีพงษ์พันธ์ จักษุวิทยา เฉพาะทาง โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ศูนย์จักษุวิทยาเฉพาะทาง โทร. 02-836-9999 ต่อ 3621-2

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น