นายอุทัยรัตน์ ชัยประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 ม.ค.2553 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” เกิดอุบัติเหตุ รวม 686 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2552 (464 ครั้ง) 222 ครั้ง ร้อยละ 47.84 ผู้เสียชีวิต 70 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2552 (52 ราย) 18 ราย ร้อยละ 34.62 ผู้บาดเจ็บ 737 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2552 (492 ราย) 245 ราย ร้อยละ 49.80 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 50 ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 20.70 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.90 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.33 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.69 ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 31.78 ช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กลางคืน ร้อยละ 67.93 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 22.30 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 58.36 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (33 ครั้ง) รองลงมา นครศรีธรรมราช (๒๙ ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต (35 ราย) จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 6 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 38 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ มี 6 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ยโสธร สกลนคร อ่างทอง และอำนาจเจริญ ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,707 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,603 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 715,516 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 69,515 ราย โดยมีความผิดฐาน ไม่มีใบขับขี่มากที่สุด 23,006 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 21,195 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (วันที่ 29 ธ.ค. 52 — 1 ม.ค.53) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,510 ครั้ง ลดลงจากปี 2552 (2,793 ครั้ง) 283 ครั้ง ร้อยละ 10.13 ผู้เสียชีวิตรวม 238 คน ลดลงจากปี 2552 (278 คน) 40 คน ร้อยละ 14.39 ผู้บาดเจ็บรวม 2,725 คน ลดลงจากปี 2552 (2,996 คน) 271 คน ร้อยละ 9.05 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (83 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี และพระนครศรีอยุธยา (10 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เพชรบูรณ์ (99 ราย) จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 4 วัน ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 4 วัน มี 12 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 4 วัน ได้แก่ ยโสธร
นายอุทัยรัตน์ กล่าวต่อว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 4 วันของการรณรงค์ที่ผ่านมา สาเหตุของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2553 กว่าร้อยละ ๔๐.๕ เกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการจังหวัดให้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ประจำจุดเข้มงวดการตรวจจับดำเนินคดี โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็ว เมาแล้วขับ รวมถึงการไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ โดยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครประจำจุดสกัดเน้นหนักมาตรการเข้มข้นบนถนนสายรองในหมู่บ้านและชุมชน เฝ้าระวังและตักเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงโทษกรณีกระทำผิดกฎจราจร เพื่อตักเตือนและป้องปรามผู้ใช้รถใช้ถนน หากขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท การแซงในที่คับขัน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ ผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษปรับตั้งแต่ 400 — 1,000 บาท กรณีเมาแล้วขับ หากตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 — 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต นอกจากนี้ ในช่วงการรณรงค์ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการจับกุมร้านค้าริมทางบนถนนสายหลักและ สายรองที่จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำนวน 277 ราย และได้มีการถอนใบอนุญาตการจำหน่ายสุราที่กระทำผิดกฎหมาย อาทิ จำหน่ายนอกเวลา ที่กำหนด จำหน่ายในสถานที่ห้ามจำหน่าย รวมจำนวน 26 ราย จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายสุรา ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจำหน่ายสุราในสถานที่ห้ามจำหน่าย เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานที่ราชการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีจำหน่ายสุราแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีจำหน่ายสุรานอกเวลาที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับของประชาชน ขอให้แต่ละจังหวัดพิจารณาปรับแผนการตั้งจุดตรวจให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งติดตามสภาพการจราจรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีเส้นทางสายหลักจากภูมิภาคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนเฉลิมฉลองปีใหม่ติดต่อกันหลายวัน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ อาจมีอาการอ่อนเพลีย จึงขอฝากเตือนให้วางแผนการเดินทางกลับ โดยเตรียมยานพาหนะและร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ หากต้องขับรถเกิน 400 กิโลเมตร ควรมีผู้ขับรถสับเปลี่ยนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ที่มีสาเหตุจากการหลับใน รวมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรและมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยทางในการเดินทางของพี่น้องประชาชน