ทีมเอเชียต่อสู้เพื่อรักษาถ้วยพระราชทานเงินแท้หนัก 16 กิโลกรัม ที่ได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของไทย นำทีมโดย เรียว อิชิกาว่า ผู้ที่มีแฟนเป็นกองทัพตั้งฉายาว่า “เจ้าชายขี้อาย”
อิชิกาว่า ก้าวขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา หลังจากที่เขากลายเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพรายการใหญ่ระดับท็อปของเจแปนทัวร์เป็นครั้งแรกจากทั้งหมดหกครั้ง เมื่อมีอายุเพียง 15 ปี ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น
ทีมยุโรปที่จะมาท้าทาย นำทีมโดย คอลิน มอนต์โกเมอรี ผู้ที่ก้าวเข้าสู่พระราชวังบั๊กกิ้งแฮมถึงสองครั้งเพื่อเข้ารับพระทานรางวัลในงานเลี้ยงปีใหม่สำหรับแขกกิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญของสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ
ปี 1998 มอนต์โกเมอรี ได้รับรางวัลเกียรติยศ เอ็มบีเอ — สมาชิกของ บริติช เอ็มไพร์ — และเจ็ดปีต่อมา เขาได้รับรางวัลที่มีเกียรติยศสูงขึ้นที่เรียกว่า ออเดอร์ ออฟ บริติช เอ็มไพร์ เรียกชื่อย่อว่า — โอบีอี
รางวัลแรกเป็นรางวัลที่ได้รับ จากการที่เขาประสบความสำเร็จในอาชีพกอล์ฟ โดยคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ออเดอร์ ออฟ เมอริท หกสมัยติดต่อกัน และเขาได้ฉลองความสำเร็จอีกครั้งเป็นปีที่เจ็ด
ส่วนรางวัล โอบีอี ในปี 2004 เป็นรางวัลที่ได้รับจากการทำสถิติที่เหลือเชื่อจาก ไรเดอร์ คัพ เขาทำพัตต์เพื่อชนะที่สนามกอล์ฟ โอ๊คแลนด์ ฮิลส์ ช่วยให้ทีมยุโรปคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายบนผืนแผ่นดินของอเมริกัน และยังทำให้เขารักษาสถิติไม่เคยแพ้เลยในการแข่งขันแบบซิงเกิ้ลแมทช์ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ มอนต์โกเมอรี ใช้ความสำเร็จในปีนั้นก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกอล์ฟชั้นนำของยุโรปในปี 2005 และทำสถิติคว้าแชมป์ ออเดอร์ ออฟ เมอริท สมัยที่แปดมาครอง นับเป็นสถิติที่ยากจะถูกทำลาย
ถ้าเขาสามารถพาทีมยุโรปคว้าชัยชนะทั้ง รอยัล โทรฟี และ ไรเดอร์ คัพ ในปี 2010 เขาอาจจะได้รับรางวัลที่มีเกียรติยศสูงขึ้น ซึ่งได้แก่ ตำแหน่งอัศวิน ซึ่งสามารถใช้คำนำหน้าว่า เซอร์ คอลิน มอนต์โกเมอรี
นิก ฟัลโด ได้รับรางวัลดังกล่าวในปี 2009 และไม่มีใครในยุโรปจะปฎิเสธว่า มอนตี้ก็อยู่ในฐานะเดียวกัน
ในขณะที่ อิชิกาว่า เป็นที่ยอมรับทั้งในและนอกสนามกอล์ฟ มอนต์โกเมอรี ก็รู้สึกภูมิใจที่ความสามารถของเขาเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการในราชวงศ์ของอังกฤษ
เขากล่าวว่า “มันเป็นความรู้สึกมหัศจรรย์มากที่ได้รับรางวัล เอ็มบีอี ในปี 1998 และยิ่งเป็นเกียรติมากขึ้นเมื่อได้รับรางวัล โอบีอี มันเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันไม่ได้มาง่ายๆ
การเข้าไปในพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมครั้งแรกนั้นนับว่าเป็นโอกาสพิเศษมาก และการได้กลับเข้าไปอีกครั้งเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยนึกฝันมาก่อน ทั้งสองรางวัลเป็นสิ่งพิเศษมากสำหรับผม และมันรู้สึกดีมากที่ได้รับการยกย่องต่างๆกันในอาชีพกอล์ฟของผม”
“ครั้งแรกเป็นความสำเร็จอย่างสูงสำหรับส่วนตัวของผม ในขณะที่ผมยกความสำเร็จครั้งที่สองให้กับเพื่อนร่วมทีมยุโรปของผม ผู้ที่ช่วยสร้างประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำในเรื่องราวของ ไรเดอร์ คัพ”
“ผมเป็นนักกอล์ฟอายุมากที่สุดในทีม และมีประสบการณ์ใน ไรเดอร์ คัพ มากที่สุดในทีม ผมเป็นหนึ่งในผู้ที่สร้างความสำเร็จให้ทีม มันมหัศจรรย์มากที่ได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จในลักษณะพิเศษเช่นนี้”
ขณะที่เขาทำงานภายใต้การนำของกัปตันต่างๆห้าคน มอนต์โกเมอรี ได้รับการยอมเสมือนหนึ่งเป็นผู้นำของยุโรปในสนามระหว่างการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ ครั้งที่แปดของเขา
และถึงแม้จะมีอายุน้อย และประสบการณ์ยังอ่อน กัปตันทีมเอเชีย นาโอมิชิ ‘โจ’ โอซากิ ก็มีความสุขที่ได้เลือก อิชิกาว่า เป็นผู้ที่จะดลใจให้กับทีมของเขา เมื่ออิชิกาว่า เริ่มมาแข่ง รอยัล โทรฟี ครั้งแรกในปี 2009 ในฐานะที่ อิชิกาว่า มีแร้งกิ้งสูงที่สุดของทีมเอเชีย และเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ดาวรุ่งญี่ปุ่นวัย 18 ปี จะรับบทบาทเป็นผู้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมอีกครั้งหนึ่งในปีนี้
กัปตัน โอซากิ กล่าวว่า “ผมส่ง อิชิกาว่า ออกไปเล่นเป็นคนแรกทั้งสามแมทช์ที่เขาลงแข่ง รอยัล โทรฟี ครั้งแรก เพราะผมคิดว่า เขาจะมีความสามารถในการสร้างขวัญให้กับเพื่อนร่วมทีม เขาเป็นบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ เป็นผู้ที่สร้างบางสิ่งให้เกิดขึ้น เขาสามารถที่จะสร้างสิ่งที่ผิดปกติ และในช่วงพิเศษนั้น เขาสามารถที่จะทำให้ทั้งทีมมีพลัง
“ผมต้องย้ำว่า นี่เป็นการแข่งขันแบบทีม และผู้เล่นทุกคนมีความสำคัญเท่าๆกัน แต่เมื่อคุณมีบางคนที่มีบุคลิกดี และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มันเป็นธรรมชาติที่คุณจะใช้มันเพื่อความได้เปรียบในเกม”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
ผู้ติดต่อ
ดอริส ชาง
email: [email protected]
อรรถพล ทองประเสริฐ (วิคเตอร์)
Tel +662-651-9499
Fax +662-651-9498
E-mail [email protected]