ผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดปี 2550 พบว่า ในกลุ่มเด็กจะพบปัญหาฟันผุมากที่สุดโดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 3 ปี จะมีปัญหาฟันน้ำนมผุมากถึงร้อยละ 61 และผุเพิ่มเป็นร้อยละ 81 เมื่ออายุ 6 ปี ส่วนเด็กอายุ 12 ปี หรือ ประถมศึกษาปีที่ 6 ฟันแท้จะผุถึงร้อยละ 57 ปัญหาฟันผุในเด็กสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค เด็กจะนิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ แต่ไม่รู้ว่ามีผลเสียทำให้ฟันผุ ในขณะที่ความสามารถในการแปรงฟันด้วยตนเองของเด็กเล็กยังไม่มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยผู้ปกครองช่วยแปรงฟันให้ซึ่งพบว่ามีเพียงร้อยละ 36 เท่านั้น ส่วนเด็กโตมักจะละเลยการทำความสะอาดช่องปากตนเอง ปัญหาฟันผุในเด็กนอกจากจะก่อให้เกิดความเจ็บปวด มีการติดเชื้อ และมีปัญหาการ บดเคี้ยวอาหาร ยังมีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และต่อบุคลิกภาพของเด็กอีกด้วย ที่สำคัญคือ กระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน เพราะปวดฟัน ทั้งนี้ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันตั้งแต่วัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปาก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาใน
วัยสูงอายุตามมา
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และเป็น “วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ” ทุกปีมูลนิธิ พอ.สว. กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ทางทันตสุขภาพแก่ประชาชนทั่วประเทศเพื่อสร้างกระแสให้สังคมเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากที่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี และในปี 2553 นี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” ตุลาคม 2553 เดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทยเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติขึ้น นอกจากจะให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่า พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทยแล้ว ในวันที่ 13 ตุลาคม 2553 นี้ กรมอนามัยได้จัดกิจกรรมรณรงค์ ด้วยการเชิญชวนและนัดหมายให้มีการแปรงฟันพร้อมกันทั่วประเทศที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้เกียรติเป็นประธานส่งสัญญาณการแปรงฟันผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11
ในช่วงเวลา 11.00-12.00 น. เพื่อสร้างกระแสให้สังคมได้เห็นความสำคัญของการแปรงฟันในเด็กเล็กที่บ้านโดยผู้ปกครอง และการฝึกทักษะเด็กเล็กด้วยการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโดยท้องถิ่นและผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กเล็ก ตั้งเป้าให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มอายุอื่นๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกิจกรรมรณรงค์พร้อมกันอย่างน้อย 600,000 คน
นอกจากการรณรงค์แปรงฟันพร้อมกันทั่วประเทศที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในวันที่ 13 ตุลาคม 2553 แล้ว วันที่ 12 ตุลาคม 2553 กรมอนามัยยังได้จัดการประกวด “10 ยอดฟันดี วัย 80 ปี” เพื่อชี้ให้สังคมเห็นว่า หากดูแลฟันอย่างดีตั้งแต่เด็ก แม้จะ 80 ปี ก็ยังมีฟันดีได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025822965 ทีมประชาสัมพันธ์ โครงการฟันดี สดุดีสมเด็จย่า