นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังเผชิญพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทำให้บ้านเรือน และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยในช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อน จะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง จึงมักมีผู้ได้รับอันตรายจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าโค่นล้มทับ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะนำวิธีป้องกันอันตรายจากพายุลมแรงในช่วงเกิดพายุฤดูร้อน ดังนี้ ป้ายโฆษณา
ก่อนเกิด หากสังเกตพบป้ายโฆษณาไม่ได้มาตรฐาน เช่น โครงเหล็กมีสนิม น็อตหรือชิ้นส่วนของโครงเหล็กหลุดออกจากกัน ให้รีบแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าของป้ายโฆษณาดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขทันที สำหรับอาคารบ้านเรือนที่ติดตั้งป้ายโฆษณา ให้หมั่นตรวจสอบความแข็งแรงของป้ายโฆษณา เพื่อป้องกันพายุลมแรงพัดป้ายโฆษณาล้มทับบ้านเรือนเสียหาย ขณะเกิด ออกห่างจากบริเวณป้ายโฆษณาให้มากที่สุด เพราะเสี่ยงต่อการถูกโครงเหล็กค้ำยันป้ายโฆษณาล้มทับ ต้นไม้ ก่อนเกิด สำรวจต้นไม้บริเวณรอบบ้าน หากพบกิ่งไม้ไม่แข็งแรง ต้นไม้ที่โคนรากลอยไม่ยึดติดหน้าดิน ต้นไม้ที่มีอายุมากและอยู่ในสภาพยืนต้นตาย ให้จัดการโค่นหรือตัดทิ้ง เพราะเมื่อโดนพายุจะหักโค่นได้ง่ายและเสี่ยงต่อการล้มทับบ้านเรือน ขณะเกิด ไม่หลบใต้ต้นไม้ เพราะนอกจากอาจได้รับอันตรายจากการถูกกิ่งไม้หล่นใส่และต้นไม้ล้มทับแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า หลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้ ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่นลานจอดรถในบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง เป็นต้น กรณีขับรถ ห้ามจอดรถใต้ต้นไม้ริมข้างถนนโดยเด็ดขาดให้จอดรถในสถานีบริการน้ำมัน หรือจุดจอดรถริมข้างทางที่มีสภาพปลอดภัย ที่สำคัญ ในขณะเกิดพายุฝนตกฟ้าคะนอง ห้ามเข้าใกล้เสาไฟฟ้าและแนวสายไฟฟ้าแรงสูง เพราะอาจถูกฟ้าผ่าหรือเสาไฟฟ้าล้มทับ หากพบสายไฟฟ้าขาดตกอยู่บนพื้น ห้ามแตะต้องหรือใช้ไม้เขี่ยสายไฟฟ้าเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต กรณีเสาไฟฟ้าล้มทับหรือสายไฟฟ้าขาดลงมาพาดกับรถ ให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาดำเนินการแก้ไข ห้ามลงจากรถจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือกระแสไฟฟ้าถูกตัดเรียบร้อยแล้ว