จากการสำรวจพบปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ การถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของ “โกลบอล เจเนอเรชั่น” อันทรงพลังด้วยแรงขับทางเทคโนโลยี และปัจจัยพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ 1. การอยู่ร่วมเป็นสังคมเดียวกัน (Commune) - เครือข่าย ความสัมพันธ์ และความเป็นสังคมเดียวกัน 2. ความยุติธรรม (Justice) - ความต้องการให้เกิดความเป็นธรรมต่อบุคคลและสังคม และ 3. ความแท้จริง (Authenticity) - ความต้องการเห็นว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง
นางลอร่า ซิมพ์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายโกลบอลไอคิวของแมคแคน เวิลด์กรุ๊ป กล่าวถึงการศึกษานี้ว่า “สิ่งที่เราเห็นคือ เทคโนโลยีกลายเป็นตัวเชื่อมโลกทั้งโลกเข้าหากัน เสมือนกาวที่เชื่อมต่อคนทุกยุคทุกสมัยเข้าด้วยกันและมีแรงกระตุ้นให้เกิดพลังอย่างมหาศาล” เธอกล่าวต่อว่า “วัยรุ่นยุคใหม่ใช้เทคโนโลยีราวกับมันเป็นต่อมรับรสอันทรงพลัง ในการหาความรู้ ค้นหาเพื่อน และค้นหาความบันเทิงทุกอย่างที่ต้องการ”
มร.เดฟ แมคคูแกน ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของแมคแคน เวิลด์กรุ๊ป กล่าวว่า “สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นนี้ก็คือ แม้ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคนี้จะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอยู่มาก แต่พวกเขาก็มีการใช้เทคโนโลยีไร้สายเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสาร ค้นหาข้อมูลข่าวสาร และเชื่อมต่อกับสังคมเหมือนกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นการสร้างสังคมแบบใหม่เพิ่มขึ้นมาจากสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่ อีกทั้งความต้องการที่จะบรรลุสิ่งที่ตนเองต้องการ บวกกับโอกาสที่มีมากขึ้นก็ทำให้วัยรุ่นปัจจุบันมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกัน”
ความจริงที่ถูกค้นพบจากการสำรวจ
- เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยที่ห้า
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็นเหมือนองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้อย่างหนึ่งในชีวิตวัยรุ่น โดยวัยรุ่นอายุ 16 — 22 ปี จำนวนมากกว่าครึ่ง (53 เปอร์เซ็นต์) กล่าวว่าพวกเขายอมสูญเสียประสาทสัมผัสในการรับรู้ ดีกว่าสูญเสียประสาทสัมผัสในโลกแห่งเทคโนโลยี ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้วเทคโนโลยีไม่ใช่แค่ส่วนประกอบหนึ่ง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสถึงโลกทั้งโลกและรับรู้ความเป็นไปต่างๆ
- สังคมเศรษฐกิจถูกทดแทนด้วยสังคมแห่งประสบการณ์
ในสังคมแห่งวัตถุนิยมนั้น ผู้คนให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ตนเองเป็นเจ้าของ แต่ในสังคมแห่งประสบการณ์นั้น ผู้คนให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ตนเองได้เห็นและได้ทำ (คุณค่าแห่งจินตนาการมีคุณค่าเทียบเท่ากับคุณค่าแห่งวัตถุตริง) งานวิจัยของแมคแคน เวิลด์กรุ๊ป พบว่า วัยรุ่นในปัจจุบันใส่ใจกับสังคมเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นคุณกำลังติดต่อกับใคร และคุณแบ่งปันเรรื่องราวอะไรออกไปบ้าง อย่างที่ผู้ตอบแบบสำรวจคนหนึ่งกล่าวว่า “หากไม่มีรูปมาพิสูจน์ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง”
ในขณะที่คนรุ่นก่อนนี้ มักจะให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนกลุ่มเล็กๆ แต่ความสัมพันธ์ของวัยรุ่นในสมัยนี้ซับซ้อนกว่าเดิมมาก ตัวอย่างเช่นการใช้สื่อประเภทโซเชียล มีเดีย เป็นต้น วัยรุ่นในสมัยนี้สามารถจัดการและเก็บรักษาเพื่อนมากมายหลายกลุ่มไว้ได้ อาจกล่าวได้ว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายของเพื่อนที่กว้างขวาง ได้เข้ามาแทนที่กลุ่มเพื่อนที่สนิทสนมกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สิ่งนี้ได้กลายเป็น “ยุคสมัยแห่งยุทธศาสตร์” ที่สามารถสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มคนอันหลากหลาย เกิดการสร้างเครือข่ายต่างๆ รวมไปถึงจัดการกับคนที่เราไม่ต้องการได้
แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป ยังพบว่า 47% ของเยาวชนทั่วโลก ต้องการที่จะเป็นที่จดจำผ่านเครือข่ายกลุ่มเพื่อน
- การค้นหาความจริง
เมื่อสอบถามวัยรุ่นสมัยนี้ว่า พวกเขามองหาอะไรในตัวเพื่อนสนิท ผลสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ต้องการ “ความจริงใจ” มากถึง 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทิ้งห่าง “ความเป็นของจริง” ที่ตามมาเป็นอันดับสองอยู่เกือบเท่าตัว โดย “ความจริงใจ” นั้นเป็นคำยอดฮิตที่วัยรุ่นใช้กล่าวถึงตนเอง โดย 21 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นทั่วโลกใช้คำนี้เป็นคำอธิบายลักษณะของตนเอง
ความจริง คือสิ่งที่คนในยุคสังคมเศรษฐกิจต้องการ และธรรมชาติของอินเตอร์เน็ตทำให้ความต้องการข้อมูล การแสดงความคิดเห็น และการสร้างข่าวลือต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย และการค้นหาความจริง ก็เป็นดั่งกฎแห่งอุปสงค์และอุปทานที่กล่าวว่า ข้อเท็จจริงนั้น ยิ่งหายากเท่าไร ก็จะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้น
- ความยุติธรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา
“ความยุติธรรม” เป็นแรงผลักดันอันดับสองของวัยรุ่นยุคปัจจุบัน (โดยถูกจัดลำดับว่า “สำคัญมาก” ถึง 52เปอร์เซ็นต์จากวัยรุ่นทั่วโลก) โดยเหล่าวัยรุ่นได้บอกว่า พวกเขานั้น “เก่ง” ในการ “แยกแยะสิ่งถูกออกจากสิ่งผิด” ซึ่งส่วนใหญ่กล่าวว่า พวกเขาต้องการถูกจดจำว่าพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในทางที่ดีขึ้น
วัยรุ่นทั่วโลกต่างตื่นตัวกับการใช้สื่อทางสังคมเป็นเครื่องมือและการควบคุมการค้นหาความยุติธรรมให้กับสังคม พวกเขากำลังใช้เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการที่ก่อให้เกิดความยุติธรรมและการที่พวกเขามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงนั้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัย กด ‘’Like’’ ในหน้า McCann Worldgroup ใน Facebook
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
รุ่งนภา ชาญวิเศษ, ต้องหทัย สุดดี
เวเบอร์ แชนด์วิค (ประเทศไทย)
โทร: 02-343-6000 ต่อ 061, 174
อีเมล์: [email protected], [email protected]