ดร.เสรีกล่าวว่ามีทางเลือกที่จะ “ไม่ทำอะไรเลย” เช่นกัน แม้ว่าประเทศไทยต้องตัดสินใจว่าการสร้างพื้นที่รับน้ำควรจะมีช่องทางผ่านของน้ำด้วยหรือไม่
ดร.เสรี ซึ่งร่วมงานที่จัดขึ้นในโอกาสที่สถาบันเอไอทีย้ายกลับมาดำเนินงานที่วิทยาเขตหลัก ปทุมธานี หลังจากน้ำเข้าท่วมสถาบันฯในวันที่ 21 ตุลาคม ปีที่แล้ว ยังเสริมว่าในทศวรรษที่ผ่านมารูปแบบภูมิอากาศในประเทศไทย มีการผันแปรระหว่างความแห้งแล้งอย่างหนักกับน้ำท่วม ดร.เสรี ได้ยกผลการศึกษาของธนาคารโลกที่กล่าวว่าปีใดที่เกิดน้ำท่วมจะตามมาด้วยความแห้งแล้งและคลื่นความร้อนในปีถัดมา
ดร.เสรี ยังกล่าวอีกว่าการที่มีฝนตกสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 นั้นได้นำไปสู่น้ำท่วมสะสมจำนวนมหาศาลในจังหวัดนครสวรรค์ของไทย ซึ่งทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว แม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ลุ่มน้ำขนาด 162,800 ตร.กม. และนครสวรรค์เป็นพื้นที่ๆมีการไหลบรรจบกันของแม่น้ำสี่สายคือ ปิง วัง ยม น่าน
เมื่อถามว่าประเทศไทยจะเกิดน้ำท่วมในพ.ศ. 2555 อีกหรือไม่ ดร.เสรีกล่าวว่าการคาดการณ์ของภูมิอากาศมีความไม่แน่นอน และการทำนายที่ดีและยอมรับได้คือการคาดการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุการณ์จริงน้อยกว่า 10 วัน ดร.เสรียังแนะนำว่าควรจะมีการทำนายจำนวนการไหลเข้าของน้ำสู่เขื่อนต่างๆที่ดีกว่านี้ ตลอดจนการเน้นการสื่อสารด้านความเสี่ยง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่มีเพียงพอ การวางแผนการใช้ที่ดินและการประเมินความเสี่ยงน้ำท่วมที่ดีกว่านี้ โดยถือว่าเป็นบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากน้ำท่วมปี 2554