“จากการมาตรการผลักดันการส่งออกสินค้าผลไม้เชิงรุกของกรมฯ จึงคาดว่าจะสามารถรองรับผลผลิตผลไม้ที่กำลังจะออกมาสู่ตลาดได้ และช่วยสร้างเสถียรภาพราคาผลไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้มีผู้ซื้อ-ผู้นำเข้าจากอินโดนีเซีย และจีน จากภูมิภาคที่เป็นตลาดหลักอย่างเมืองกวางโจว และนครเซี่ยงไฮ้ ภูมิภาคที่มีศักยภาพ ได้แก่ เมืองคุนหมิง และ เซี่ยะเหมิน จำนวนประมาณกว่า 30 บริษัท เข้าร่วมเจรจาการค้ากับผู้ส่งออก กลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกลำไย และเพื่อร่วมหารือกับคณะทำงานฯเพื่อกำหนดแนวทางการผลักดันตลาดลำไยคุณภาพสู่ตลาดต่างประเทศ อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป”ร.อ.สุวิพันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานการผลิต จะนำคณะผู้แทนการค้า เข้าเยี่ยมชมและรับชมโรงงานซัลเฟอร์ไดออกไซด์กับผลลำไยสดต้นแบบ ด้วยระบบบังคับอากาศแนวตั้งมาตรฐานการส่งออก เข้าเยี่ยมชมสวนลำไยมาตรฐาน GAP ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการการปรับปรุงคุณภาพและบริหารจัดการผลไม้ให้ได้มาตรฐานการส่งออกอีกด้วย
สำหรับการส่งออกผลไม้ในปีนี้ กรมฯได้ดำเนินการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย รวมทั้งการขยายตลาดใหม่ๆ อาทิ การจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าผลไม้ไทยเยือนจีน วันที่ 27 — 30 มีนาคมศกนี้ และการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าอาหาร ซึ่งรวมสินค้าผักผลไม้ เยือนประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 26-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมทั้ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผลไม้สดและแปรรูปร่วมกับห้างสรรพสินค้า/ ซุปเปอร์มาร์เก็ตในตลาดต่างประเทศ ทั้งในจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และ สหภาพยุโรป(อียู) อาทิ อังกฤษ ออสเตรีย เป็นต้น ล่าสุดการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปเยอรมันและฝรั่งเศสจะเปิดบูธให้ชิมลำไยและสั่งซื้อสินค้าได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีมาตรการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการส่งออกผลไม้โดยเส้นทางโลจิติกส์ใหม่ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ในฐานะรับผิดชอบการจัดการปัญหาราคาผลไม้ของประเทศไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออกสินค้าผลไม้ไทย อันจะช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกระดับ มีความอยู่ดีกินดี มาโดยตลอด
สำหรับสถิติการส่งออกลำไยในปี 2554 ไทยส่งออกผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง เป็นมูลค่ากว่า 960 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 76% ปริมาณ 1,187,676 ตัน โดยส่งออกลำไยสดมูลค่า 205 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 54% ปริมาณ 382,013 ตัน ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยตลาดจีนและฮ่องกง คิดเป็นสัดส่วนกว่า 67 %