ในปัจจุบัน มีแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นจำนวนมากและเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจให้กับไทย ขณะเดียวกัน ลูกหลานที่ติดตามผู้ปกครองแรงงานข้ามชาติเข้ามาในประเทศไทย และบุตรหลานแรงงานข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทย หากไม่มีเลขประจำตัวจะไม่สามารถรับบริการการจัดการศึกษาจากทางภาครัฐหรือมีโอกาสทางการศึกษาน้อยกว่าเด็กไทยโดยทั่วไป
“ทียูเอฟ เล็งเห็นว่าการจัดการศึกษาให้กับเด็กข้ามชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับสิทธิของตัวเองอย่างเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข จึงร่วมมือกับแอลพีเอ็น และโรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งศูนย์ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์ เพื่อจัดการศึกษาคุณภาพเบื้องต้นอย่างเหมาะสมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เด็กข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ให้พวกเขาสามารถสื่อสารภาษาไทย เรียนรู้และปรับตัวด้านวินัยทางสังคม ก่อนที่จะสอบวัดระดับเข้าเรียนในระบบการศึกษาไทยต่อไป” นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด มหาชน กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักของโครงการ “ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์”
นอกจากนี้ การจัดตั้ง “ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์” เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขการเข้าใจผิดเรื่องการใช้แรงงานเด็กจากสายตาชาวต่างชาติ โดยให้ลูกหลานแรงงานอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมกับวัยเรียน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตให้แก่เด็กข้ามชาติ รวมถึงพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติในชุมชนจังหวัดสมุทรสาคร “ทียูเอฟได้ตั้งงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี เพื่อใช้สนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ การซื้ออุปกรณ์การเรียน การจ้างครูและเจ้าหน้าที่ซึ่งสื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและพม่าประจำ ”ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์” ให้บริการด้านการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมแก่เด็กข้ามชาติเพื่อเข้าระบบการศึกษาไทย” นายฤทธิรงค์ อธิบายเพิ่มเติม
ในปีแรกที่เริ่มดำเนินโครงการ ”ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์” โดยมีโรงเรียนนำร่องในจังหวัดสมุทรสาครเพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบในการจัดตั้งศูนย์ฯ จำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดศรีสุทราราม(วัดกำพร้า) และโรงเรียนวัดศิริมงคล
นายสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (แอลพีเอ็น) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ต้องขอขอบคุณทียูเอฟที่ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเพื่อมวลชน โดยไม่แบ่งแยกเด็กไทยหรือเด็กข้ามชาติ โดยโครงการนี้จะเป็นต้นแบบการพัฒนาต้นทุนทางสังคมให้กับภาคธุรกิจ เนื่องจากในอนาคตเด็กที่มีการศึกษา มีความรู้พื้นฐานภาษาไทยและมีวุฒิการศึกษา จะช่วยพัฒนาผลผลิตทางภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจต่อไป”
นายพิศาล นันทะเส ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดศรีสุทราราม (วัดกำพร้า) กล่าวว่า “ผมดีใจที่ทียูเอฟเลือกโรงเรียน วัดศรีสุทราราม เป็นหนึ่งในสองโรงเรียนนำร่องสำหรับจัดตั้งศูนย์ฯ เพื่อพัฒนาเป็นโรงเรียนต้นแบบให้โรงเรียนอื่นที่สนใจเข้ามาศึกษา ปัจจุบันโรงเรียนมีเด็กข้ามชาติที่เข้ามาเรียนจำนวน 180 คนที่เรียนรวมกับเด็กไทย การสนับสนุนในครั้งนี้จะทำให้โรงเรียนสามารถจะรองรับเด็กข้ามชาติและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กกลุ่มนี้มากขึ้น เพราะปัจจุบันโรงเรียนมีข้อจำกัดเรื่องของสถานที่ และบุคลากร”
นายอภิวัฒ บุญภมร ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดศิริมงคล กล่าวถึงศูนย์ฯ ดังกล่าวว่า “การศึกษาไม่มีคำว่าจำกัดชาติ เด็กข้ามชาติที่อยู่ในเมืองไทยควรได้รับการศึกษาเสมือนเด็กไทย เพื่อให้พวกเขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี การที่ทียูเอฟเข้ามาทำโครงการนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทางโรงเรียนอย่างยิ่ง เนื่องจากโรงเรียนกำลังประสบปัญหาเรื่องอาคารเรียนที่ทรุดโทรม และไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน ผมขอขอบคุณทียูเอฟแทนเด็กนักเรียนเหล่านี้ ที่จะได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม และมีทักษะการดำเนินชีวิตทีดีในประเทศไทย”
ทียูเอฟ มีนโยบายดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ พนักงานอาสาสมัคร รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ และการสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาด้านต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาครมาโดยตลอด การดำเนินโครงการ ”ทียูเอฟแคร์เซนเตอร์” จะเป็นโครงการความร่วมมือของเอ็นจีโอ ภาคเอกชน และภาครัฐ เพื่อช่วยเหลือเด็กข้ามชาติด้านการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน เป็นโครงการแรกในจังหวัดสมุทรสาคร