สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2556 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.0 — 3.0) ลดลงจากปีก่อนหน้า ตามราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง ในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ ดุลการค้าจะเกินดุลลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าที่เร่งตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่ามูลค่าการส่งออก ซึ่งจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยที่ประมาณร้อยละ 0.5 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.0 — 1.0 ของ GDP)”
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากต้องการให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ในอัตราที่สูงกว่าที่คาดการณ์นั้น ภาครัฐจะต้องมีการเร่งเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนตามแผนบริหารจัดการน้ำของภาครัฐวงเงินลงทุนรวม 3.5 แสนล้านบาท และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ พรบ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ยังต้องมีการส่งเสริมการส่งออกสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยแก่ชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี 2556 สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5.0”