สุภิญญา หวั่น การใช้อำนาจกสทช.ตามหลักเกณฑ์ประกาศฯเนื้อหาและผังรายการ กระทบสิทธิเสรีภาพสื่อวิทยุ - โทรทัศน์ รวมทั้งการใช้กฎหมายคาบเกี่ยวหลักจริยธรรม

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสทช. หนึ่งในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ชี้แจงเพิ่มเติม หลังจากที่ประชุม กสท. ครั้งที่ 25 วันจันทร์ที่ 8 ก.ค. 2556 มีมติอนุมัติประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแลเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นประกาศ กสทช.ที่รอคอยมานานสำหรับการกำกับดูแลใช้อำนาจทางปกครองตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตนได้สงวนความเห็นในบางประเด็นของร่างฯฉบับนี้ เพราะมีความคาบเกี่ยวเรื่องจรรยาบรรณ จริยธรรมในการใช้ดุลยพินิจของกสทช.ที่อาจเข้ามากำกับดูแลเรื่องที่มีขอบข่ายกว้างขวางกว่า มาตรา 37หรือไม่ เพราะอาจจะทำให้หน่วยงานรัฐ อย่างกสทช.ใช้อำนาจเพิ่มมากขึ้นในกำกับเนื้อหาและอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่ามีหลายเรื่องที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างชัดเจน อย่างเช่น การโฆษณาผิด พ.ร.บ.อาหารและยา กสทช.เองสามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดได้ แต่หากเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับหลักจริยธรรม จรรณยาบรรณ กสทช.ควรที่จะทำหน้าที่ส่งเสริมการกำกับตนเองของวิชาชีพสื่ออย่างเข้มข้น และต้องมาดูกันว่าเรื่องอะไรที่ผิดกฎหมาย ผิดหลักจริยธรรม เพราะที่ผ่านมาเราได้ระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการในการทำสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ (DO and Don’t) เพราะหากนำเรื่องที่ผิดกฎหมายและคาบเกี่ยวกับจรรยาบรรณหรือจริยธรรมด้วย อาจทำให้ กสทช.ใช้ดุลยพินิจกว้างขวางขึ้นในการที่จะสั่งแบนหรือเซ็นเซอร์สื่อ ส่วนการกำกับทางจริยธรรมหรือวิชาชีพอาจต้องใช้การกำกับทางสังคมควบคู่ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ดี ประกาศฯฉบับนี้ยังต้องเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ จึงอยากให้สื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างฯนี้ด้วย เพราะจะมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อวิทยุและสื่อโทรทัศน์อย่างแน่นอน ในการเปิดให้กสทช.ใช้อำนาจทางกฎหมายเพียงใดในการที่จะไปกำหนดอนาคตของสื่อ