นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญของเด็ก เยาวชนและประชาชนชาวไทยที่จะร่วมชื่นชมความงดงามของนาฏศิลป์อินโดนีเซีย โดยนักเรียนนาฏศิลป์แห่งมหาวิทยาลัยเปนดิดิขัณฑ์ จากเมืองบันดุง เกาะชวาตะวันตก อย่างใกล้ชิด พร้อมเรียนรู้เทคนิคการร่ายรำที่มีเอกลักษณ์ จุดมุ่งหมายของงานครั้งนี้คือการเผยแพร่ความรุ่มรวยแห่งสุนทรียศิลป์ด้านนาฏศิลป์และดนตรีอันเป็นมรดกวัฒนธรรมที่เก่าแก่ล้ำค่าของประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งการสานสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมในฐานะที่ทั้งสองประเทศกำลังจะเข้าร่วมเป็นหนึ่งภายใต้ประชาคมอาเซียน ให้สมดังคำขวัญอาเซียนที่ว่า “One Vision, One Identity, One Community” (หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม)
ดร.สิริกร มณีรินทร์ ประธานคณะอนุกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) และกรรมการบริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “อุทยานการเรียนรู้ได้สนับสนุนส่งเสริมการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนสู่เยาวชนไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ผ่านการจัดนิทรรศการพิพิธอาเซียน ที่ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยด้วยดีตลอดมา รวมไปถึงการจัดประชุมวิชาการประจำปีเกี่ยวกับการส่งเสริมการอ่านของกลุ่มประเทศอาเซียน Thailand Conference on Reading ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นการสร้างความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรมในมิติใหม่
สำหรับการจัดงานวันวัฒนธรรมอินโดนีเซียในครั้งนี้ นายเบเบบ จันจุนัน อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย และ รศ.ดร.ดาดัง ซูเรนดาร์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยการศึกษาอินโดนีเซีย จะนำคณะนาฏศิลป์จำนวนกว่า 20 ชีวิตเดินทางมาแสดงนาฏศิลป์ในประเทศไทยตลอดจนสาธิตเทคนิคการร่ายรำแบบอินโดนีเซียให้กับสาธารณชนผู้สนใจอีกด้วย
การแสดงครั้งนี้ประกอบไปด้วย รำโขน คีลานา (Kelana) โดยจะเป็นการแสดงนาฏศิลป์ที่มีลักษณะดุดันและฉับไว ไจพอง(Jaipong) ที่ดัดแปลงมาจากศิลปพื้นบ้านของชาวซันดาแห่งเกาะชวาตะวันตก เทริ เมรัค (Teri Merak) ระบำที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนอันสวยงานของนกยูงตัวผู้ รำไป (Rampai) ระบำที่ถ่ายทอดการเคลื่อนไหวอันน่าตื่นตาของเท้า มือ และส่วนต่างๆของร่างกาย ทาริ เควเซลส์ (Keurseus) ศิลปะร่ายรำของชนชั้นสูง รำพัก เคนดัง(Rampak Kendang) ที่ตกทอดมาจากวัฒนธรรมซันดาโบราณ และมีการแสดงกลองเคนดังที่หลายคนไม่เคยสัมผัสมาก่อน ชุดสุดท้ายคือ สิเครุฮาน(Cikeruhan) อันเป็นการแสดงจากนักแสดงเยาวชนที่สวยงามตระการตา
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มอาเซียน มีประชากรประมาณ 245 ล้านคน ปัจจุบันนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนาและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง และที่สำคัญในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเป็นจุดดึงดูดสำคัญของนักท่องเที่ยวมากมายทั่วโลก
ประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาช้านานตั้งแต่ในอดีต ทั้งในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมอาเซียนร่วมกัน
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) ประกาศตนเป็นเอกราชจากการปกครองของประเทศเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2488 และได้กำหนดให้ วันที่ 17 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันชาติและจัดงานเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญครั้งนี้ในหลายประเทศทั่วโลก