อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ (IRM) ปรับกลยุทธ์บริหารอาคารและหมู่บ้านจัดสรร มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับหรูหมู่บ้านและคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ เผยอสังหาริมทรัพย์ระดับราคา 20-100 ล้านบาทต้องการนักบริหารที่มีความเชี่ยวชาญและจัดการได้ทุกเรื่อง ตั้งเป้าปี 57 เข้าบริหารชุมชนไฮโซเพิ่ม 30% เตือนโครงการจัดสรรเลือกนักบริหารที่มีความซื่อสัตย์และเป็นสมาชิกของสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (IRM) และอดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดบริหารทรัพย์สินในปี 2557 ว่า IRM ได้ให้ความสำคัญกับการจัดเซกเมนต์ลูกค้าเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารอาคารและหมู่บ้านจัดสรร กล่าวคือในปีนี้มีนโยบายที่จะเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น ในขณะที่โครงการอาคารชุดและบ้านจัดสรรในระดับราคา 20-100 ล้านบาทจะเลือกใช้บริการบริษัทบริหารทรัพย์สินที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เนื่องจากมั่นใจว่าเป็นมืออาชีพที่มีศักยภาพในการบริหารและจัดการทุกเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากปีที่ผ่านมามีโครงการในระดับราคาดังกล่าวให้ความไว้วางใจ IRM ให้เข้าไปร่วมบริหารทรัพย์สินมากขึ้น เช่นโครงการแกรนด์คริสตัลพาร์ค, แกรนด์บางกอกบูเลอวาร์ด, ทีซีกรีนพระราม9, เรนด์สุขุมวิท23 ฯลฯ ทำให้ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับไฮเอนด์ประมาณ 20% โครงการระดับกลาง 70% และโครงการอื่นๆ 10% ทั้งนี้ ในปี 2557 นี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% ของโครงการที่เข้าบริหารทั้งหมดกว่า 100 โครงการ
“การบริหารทรัพย์สินในกลุ่มระดับไฮเอนด์นั้นแตกต่างจากโครงการระดับอื่น ๆ เนื่องจากผู้อยู่อาศัยมีความคาดหวังในเรื่องการทำงานและแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อยู่อาศัยในชุมชนไฮเอนด์ได้จะต้องมีความน่าเชื่อถือ มีภาพลักษณ์ที่ดี ที่สำคัญจะต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารทรัพย์สิน IRM จึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกบุคลากรที่เข้าไปทำหน้าที่ต่าง ๆ นอกจากจะต้องมีศักยภาพและความสามารถเช่นเดียวกับการบริหารชุมชนและอาคารทั่วไปแล้ว จะต้องมีความพิเศษอื่น ๆ ที่สามารถสื่อสารและร่วมงานกับสมาชิกของชุมชนและอาคารที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ และเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งมีไลฟ์สไตล์และแนวคิดที่แตกต่างจากผู้อยู่อาศัยในระดับอื่น ๆ ดังนั้น บุคลากรในระดับผู้จัดการและผู้อำนวยการจำเป็นต้องมีอายุตั้งแต่ 35-45 ปี” นายธนันทร์เอกกล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม้ในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าระดับไฮเอนด์แต่ IRM มีนโยบายที่ชัดเจนในการให้บริการลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ โดยเน้นความพึงพอใจสูงสุด และมีเป้าหมายในการเข้าไปบริหารโครงการระดับกลางทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า 40 โครงการ
นายธนันทร์เอกเปิดกล่าวเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านในระดับหรู ทำให้ทราบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการอะไรเป็นพิเศษกว่าลูกค้าทั่วไป IRM จึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย เนื่องจากส่วนใหญ่คาดหวังในเรื่องความไว้วางใจ เพราะไม่ต้องการลงรายละเอียดในการทำงานในเชิงลึกมากนัก แต่ผู้ให้บริการจะต้องมีความสร้างสรรค์ในการบริหารและจัดการ รวมทั้งต้องมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาซ้ำซากฯลฯ ในขณะนี้ลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดเช่นกัน แต่คณะกรรมการหมู่บ้านและอาคารระดับกลางส่วนใหญ่ต้องการมีส่วนร่วมในทุกเรื่อง ทั้งนี้เพื่อต้องการความคุ้มค่าและบริหารจัดการให้เกิดความประหยัดงบประมาณ ดังนั้น ผู้ที่ทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการ และเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน
“ไม่ว่าจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับใดก็ตาม การคัดเลือกผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่บริหารและจัดการชุมชนและอาคารให้ความสำคัญกับการพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ องค์กรจะต้องเป็นสมาชิกของสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เนื่องจากทางสมาคมฯ ได้มีการควบคุมจรรยาบรรณ มีประสบการณ์ในการทำงานและผลงานอ้างอิงในระดับที่เชื่อถือได้ ที่สำคัญจะต้องตรวจสอบประวัติบริษัทและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะต้องมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพย์สิน และต้องมีปณิธานในเรื่องความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า” นายธนันทร์เอกกล่าว