นายอาจิณเวท วงศ์ทอง ผู้จัดการโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ดูแลการจัดการงาน BMAM Expo Asia 2014 เปิดเผยว่า กระแสการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ส่งผลให้หลายภาคส่วนตื่นตัวในการดำเนินแผนงานรับมือการเติบโตของธุรกิจนั้นๆ สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยก็เช่นเดียวกัน จากข้อมูลล่าสุดประเทศไทยมีประชากรมากถึง 67 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของอาคารพาณิชย์ รวมถึงโรงงานและที่อยู่อาศัยต่างๆ มากที่สุดในอาเซียน
โดยกรุงเทพมีจำนวนอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของอาเซียนคิดเป็น 8 ล้านตารางเมตร และประเทศไทยมีโรงงานกว่า 140,000 โรง รวมถึงมีนิคมอุตสาหกรรมถึง 50 แห่ง ทำให้ไทยเป็นประเทศที่ถือว่ามีความพร้อมและเป็นที่สนใจของนักธุรกิจต่างชาติในการเข้ามาลงทุน ส่งผลทำให้ไทยมีการเติบโตทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อเนื่องไปถึงธุรกิจด้านการบำรุงรักษาอาคารและการบริหารจัดการทรัพยากรอาคารที่มีประสิทธิภาพสูงและได้มาตราฐานสากลพร้อมกันด้วย
เหตุนี้เพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทางฝ่ายโครงการ อิมแพ็ค จึงเตรียมที่จะจัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติ ด้านการบำรุงรักษาอาคารและการบริหารจัดการทรัพยากรอาคารแห่งเอเชีย หรือ BMAM EXPO ASIA 2014 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายน 2557 อาคาร 5 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมุ่งหมายที่จะเป็นเวทีกลางรวบรวมการแสดงสินค้าและบริการ จัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมทั้งการประชุมนานาชาติ และการสัมมนาเชิงวิชาการต่างๆ จากมืออาชีพในวงการอสังหาที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการอาคารทั้งไทยและต่างประเทศมาให้ความรู้และชี้ทิศทางการเติบโตของอาคารประเภทต่างๆในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนรับการเปิดเออีซีด้วย
นายอาจิณเวท กล่าวเสริมว่า จากความสำเร็จของการจัดงานในครั้งที่ผ่านมา โดยมียอดผู้ซื้อเข้าชมงานกว่า 13,000 คน และผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนากว่า 1,200 คน จากแวดวงกลุ่มงานอาคาร โรงงาน และวงการการก่อสร้าง รวมถึงมีบริษัทชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วมงานกว่า 150 บริษัท มานำเสนอสินค้าและเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาและบริหารจัดการอาคารจากทั่วโลกนำสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ มาเปิดตัวกันในงาน BMAM Expo Asia 2013 มากมาย และจากผลสำรวจ 90% ของผู้แสดงสินค้าต่างพอใจกับผลตอบรับที่ได้จากงาน และ 89% ต่างเห็นว่างานนี้เป็นส่วนช่วยในการทำการตลาดให้แบรนด์ และตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี
รวมถึงได้ผู้แสดงสินค้ายังได้พบกับผู้มีอำนาจในการซื้อตัวจริง ทำให้มีเจรจาธุรกิจมากมาย คาดว่าจากความสำเร็จดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับฐานลูกค้าเดิมและสร้างความน่าสนใจแก่ลูกค้าใหม่ร่วมจัดแสดงงานมากกว่า 150 บริษัท และยอดผู้ซื้อร่วมเจรจาธุรกิจและสัมมนาตลอด 3 วันของการจัดงานรวม 15,000 คน