ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาวัตถุดิบที่มีความยั่งยืน โดยไม่ตัดไม้ธรรมชาติ จึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท พร้อมนักวิชาการเกษตรนับ 100 คน วิจัยและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ โดยมีการคัดเลือกสายพันธุ์จากการปลูกทดสอบแม่พันธุ์ไม้มากกว่า 2,500 แม่พันธุ์จากทั่วโลก จนได้ “ต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ” ที่เหมาะสำหรับการผลิตกระดาษคุณภาพ และการปลูกในภูมิอากาศในประเทศไทย ทนทานต่อโรค แมลง สามารถเติบโตภายในเวลา 3 ปี บวกกับความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกร ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ จึงเป็นที่มาของโครงการ “ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา Better Paper Better World”
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่ดั๊บเบิ้ล เอ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยตามโมเดลกระดาษจากคันนา จนมีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมจากรางวัลที่ได้รับจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ รางวัลAsian CSR Award ในฐานะองค์กรที่ช่วยขจัดความยากจนในเอเชีย จากประธานนาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รางวัล Hong Kong CSR Award ในฐานะองค์กรใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมตั้งแต่แรกเริ่มดำเนินธุรกิจ และรางวัลสาขา Green Leadership Award จากรางวัล Asia Responsible Entrepreneurship Awards Southeast Asia (AREA-SEA) 2012 ที่ประเทศสิงคโปร์
การสร้างรายได้เสริมแก่เกษตรกร ด้วยแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรนำพื้นที่ว่างบนคันนาที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาเข้าร่วมโครงการปลูกต้นกระดาษบนคันนาเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยที่ผ่านมาได้ช่วยให้เกษตรกรกว่า 1.5 ล้านครอบครัว มีรายได้เสริมจากการปลูกต้นกระดาษ 5,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมทั้งพัฒนาระบบ CDS (Channel Development System) หรือระบบเทวดาพาเดิน แอพพลิเคชั่นที่นำมาใช้ในการเกษตรเป็นแห่งแรกของประเทศ โดยใช้งานผ่าน แท็บเล็ต (Tablet) เพื่อบริหารจัดการการปลูกต้นกระดาษให้มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจนับต้นกระดาษที่ถูกต้องและแม่นยำ ทำให้เกษตรกรสามารถสมัครร่วมโครงการและได้รับเงินเร็วขึ้น
การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ผ่านโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญา ซึ่งดำเนินการมาถึงปีที่ 4 แล้ว เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้โรงเรียนใช้พื้นที่ว่างปลูกต้นกระดาษ และนำรายได้ที่ได้จากการปลูกมาเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ดังจะเห็นตัวอย่างความเสร็จของครูและนักเรียนโรงเรียนโคกกระท้อน
อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่ลงมือปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ จนสามารถมีทุนพัฒนาโรงเรียนแบบพึ่งตนเองได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถต่อเติมอาคารเรียน ปรับสนามฟุตบอล และซื้ออุปกรณ์การเรียน จากการปลูกต้นกระดาษ จนกลายเป็นต้นแบบของโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท ปัจจุบันมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 241 แห่ง ปลูกต้นกระดาษไปแล้วกว่า120,000 ต้น นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการอ่านผ่านกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง
กระดาษแก้โลกร้อน การผลิตกระดาษทุกรีมของดั๊บเบิ้ล เอ ล้วนคำนึงถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยต้นกระดาษที่ปลูกบนคันนา หรือโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญาโรงเรียนในชนบท จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคืนออกซิเจนให้พื้นที่ปลูกมากขึ้น ซึ่งมีผลการวิจัยแล้วว่ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 1 รีม จะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 12.5 กิโลกรัม และด้วยอุดมการณ์ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการลดโลกร้อน จึงได้ร่วมกับ Tree Planet Inc. ผู้พัฒนาเกมส์สัญชาติเกาหลี และองค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์กรอื่นๆ พัฒนาเกมส์ Tree Planet II เกมส์ปลูกต้นไม้ในโลกออนไลน์ ซึ่งมีต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้เล่นสามารถเลือกปลูกบนคันนาของประเทศไทย หรือ เลือกปลูกต้นไม้ชนิดอื่น ๆ ในประเทศที่เลือกได้ และเมื่อปลูกต้นไม้ในโลกออนไลน์แล้วดั๊บเบิ้ล เอ และ Tree Planet จะเนรมิต ต้นไม้เหล่านั้นให้เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง ตามพื้นที่ที่ผู้เล่นเกมส์ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะส่งมอบเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองไปปลูกในเขตป่าในประเทศใด โดยมีการเตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้วในซูดาน มองโกเลีย และเกาหลีใต้ รวมถึงสามารถเลือกส่งมอบเป็น “ต้นกระดาษ” เพื่อมาปลูกบนคันนาในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายปลูกให้ครบ 1,000 ล้านต้นภายในปี 2020
และที่ผ่านมาดั๊บเบิ้ล เอ ก็ได้จัดกิจกรรมปลูกป่าที่ประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว รวมถึงการพาตัวแทนผู้เล่นเกมส์จากประเทศเกาหลีใต้ มาปลูกต้นกระดาษบนคันนาจริงๆ ที่จังหวัดนครนายก ในไทยด้วย
ความสำเร็จที่เห็นได้ชัดจากโมเดล กระดาษจากคันนา นี้เอง ก็เป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ฟิลิป คอตเลอร์ กูรูการตลาดชื่อดัง หยิบยกโมเดลกระดาษจากคันนา เป็นกรณีศึกษาตามแนวคิด " Creating a Better World through Marketing " หรือการสร้างโลกที่ดีขึ้นผ่านการตลาด ในงานประชุมสุดยอดนักการตลาดโลก หรือ World Marketing Summit เพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากการผลิตกระดาษที่ดี จากการริเริ่มพัฒนาวัตถุดิบแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังก้าวไปอีกขั้น ด้วยการนำเอาเศษไม้ เปลือกไม้ ที่เหลือจากการผลิตกระดาษมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง ทำให้มีพลังงานอย่างยั่งยืน โดยคอตเลอร์ได้จัดทำวิดีทัศน์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับกระดาษจากคันนาในมุมมองของเขาออกมาเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งบุคคลที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ http://bit.ly/1daJlBE
อย่างไรก็ตามดั๊บเบิ้ล เอ ยังมุ่งมั่นพัฒนาโมเดลกระดาษจากคันนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร การลดโลกร้อน และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในทุกมิติ ผ่านกิจกรรมต่างๆที่ได้ดำเนินการมา โดยไม่ได้มองเป็นเพียงกิจกรรม CSRเท่านั้น แต่มันคือรากฐานการพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต