ศาสตราจารย์เติมศักดิ์ กฤษณามระ ผู้อำนวยการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว “เป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ ที่ศศินทร์ได้ร่วมมือกับเอออน ฮิววิท ในการจัดสำรวจหาสุดยอดองค์กรที่เป็นนายจ้างดีเด่นของประเทศไทยทุกระยะเวลา 2 ปี โดยมีปรัชญาและวิสัยทัศน์ในการทำงานร่วมกันคือ – ทรัพยากรบุคคลเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดขององค์กรและของประเทศ องค์กรและประเทศจะเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองได้อย่างยั่งยืนก็เพราะผู้บริหารในทุกแผนกและทุกระดับ ตระหนักในความสำคัญของพนักงานทุกคน กรสำหรับการสำรวจในปี พ.ศ.2558เป็นปีที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จะเริ่มออกตัวอย่างเป็นทางการ องค์กรของไทยและประเทศต่างๆในอาเซียนจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายประการ หนึ่งในปัจจัยที่ท้าทายคือการบริหารบุคลากรที่มีเชื้อชาติ วัฒนธรรม ความต้องการและภาษาที่แตกต่างกัน”
รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข หัวหน้าหลักสูตรการบริหารงานบุคคล สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ เปิดเผยว่า ศศินทร์เป็นสถาบันการศึกษาด้านการบริหารที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาคเห็นความสำคัญของการสร้างผู้บริหารงานบุคคลมืออาชีพระดับสากลเพื่อ เข้าสู่ภาคธุรกิจในประเทศไทยและในเอเซียที่เติบโตพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วจึงได้เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 จากนั้นในปี พ.ศ. 2543 จึงได้เปิดหลักสูตรปริญญาโท วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (M.Sc. inHuman Resource Management Program) โดยทั้งสองหลักสูตรเป็นหลักสูตรนานาชาติที่ศศินทร์ร่วมมือออกแบบร่วมกับ The Society of Human Resource Management (SHRM) แห่งมลรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกาสำหรับ SHRM เป็นสมาคมการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1946 มีสมาชิกทั่วโลกประมาณกว่าสี่แสนคน ทั้งนี้ SHRM มีองค์กรเครือข่ายที่ทำหน้าที่จัดการฝึกอบรม กำหนดมาตรฐาน ทดสอบ และออกประกาศนียบัตรรับรองคุณวุฒินักบริหารงานบุคคลระดับโลกเรียกว่า Human Resource Certification Institute (HRCI)สำหรับการร่วมมือระหว่างศศินทร์และเอออน ฮิววิท เป็นการผนึกกำลังหลักการทฤษฎีและความชำนาญในทางปฏิบัติองค์กรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการประเมินอย่างยุติธรรม โปร่งใส ด้วยมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งองค์กรโดยทั่วไปจะได้เรียนรู้กลยุทธ์และแนวทางบริหารบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีจากองค์กรที่ได้รับเลือกเป็นนายจ้างดีเด่นด้วย
นายริชาร์ดเพนประธานเจ้าหน้าที่บริหารภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทเอออนฮิววิทกล่าวว่า เป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษา ออกแบบ และดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ทั้งในตัวองค์กรและตัวบุคลากร โดยเน้นการปลูกฝังความสามารถให้แก่พนักงานที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในองค์กรเพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน อีกทั้ง ยังให้คำแนะนำในด้านการบริหารความเสี่ยงในเรื่องของการเกษียณอายุงานไปพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยทางการเงิน และยังมุ่งเน้นให้องค์กรต่างๆใส่ใจในเรื่องผลประโยชน์ทางด้านสุขภาพของบุคลากรในองค์กรอีกด้วย บริษัทฯ มีทีมงาน Talent&Reward Analytics Centerกระจายอยู่กว่า 90 ประเทศ ส่งผลให้ได้ข้อมูลเชิงลึกในกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคลทั่วโลก และที่สำคัญเราได้สร้างกระบวนการที่ใช้ในการทำสำรวจข้อมูลต่างๆ ทั้งบนเว็บไซต์ ออนไลน์ และเครื่องมือทางการตลาดอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมการวิจัยของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านของดร.อดิศักดิ์ จันทรประภาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอออน ฮิววิท กล่าวว่า ได้ริเริ่มโครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นครั้งแรกในเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2544 ซึ่งได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน และโครงการนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความผูกพันธ์ของพนักงานที่มีต่อองค์กร ประสิทธิภาพความเป็นผู้นำ ความมีชื่อเสียงของนายจ้างและวัฒนธรรมภายในช่วยขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเข้ามาร่วมงานมากกว่าองค์กรทั่วไปได้ถึง 2 เท่า ทำให้องค์กรจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 40% และมีอัตราการลาออกของพนักงานที่ลดลง 5%
ประโยชน์ขององค์กรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับคือ ได้รับรู้ถึงความรู้สึกและมุมมองของพนักงานที่มีต่อนายจ้าง พนักงานให้ความสำคัญต่อภาพลักษณ์องค์กรและสื่อสารให้กับคนภายนอกองค์กรได้ถูกต้องมากขึ้น นอกจากนี้ องค์กรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ทำการศึกษามาอย่างดีจากบริษัทเอออน ฮิววิทเพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในท้องตลาดและสามารถนำไปใช้ในการบริหารองค์กรได้เช่นเดียวกัน
โครงการค้นหาสุดยอดนายจ้างดีเด่นของเอออน ฮิววิท เป็นโครงการศึกษานายจ้างที่ครอบคลุมมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีทั้งหมด 12 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการ คือ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย
สำหรับองค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่มเติมและเข้าร่วมสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 ที่เบอร์โทร 02-305-4700
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่
วรารัตน์ วงศ์ประทีป, Assistant Chief of Marketing and Corporate Communications
[email protected]หรือ 02-218- 3853-4
แพรวทิพย์ ด่านวราวิจิตร, Marketing and Corporate Communications Coordinator
[email protected]หรือ02-218-4001-9 ต่อ 188