ความสำเร็จจากการทดลองใช้ชีวภัณฑ์เพื่อควบคุมด้วงหมัดผักในผักกาดขาวปลีในประเทศไทย

พฤหัส ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๕๘
โครงการอาเซียน-เยอรมนี ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนของไทยทดลองใช้จุลินทรีย์และไส้เดือนฝอยเพื่อควบคุมการระบาดของด้วงหมัดผักในผักกาดขาวปลี ซึ่งได้ผลเอื้อประโยชน์แก่เกษตรกรมากกว่า โดยรากผักกาดขาวปลีเจริญเติบโตได้ดีกว่าการใช้สารเคมี ช่วยลดต้นทุนและผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ด้วงหมัดผักเป็นศัตรูพืชที่สำคัญซึ่งสร้างความหนักใจให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกผักกาดขาวปลีมาโดยตลอด เพราะเมื่อมีการระบาดรุนแรงต้นกล้าจะถูกกัดกินจนตาย แต่ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นปานกลางก็จะทำให้ผักเติบโตช้าและเก็บเกี่ยวได้น้อย ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพลดลงจนไม่สามารถจำหน่ายได้ เคยมีรายงานว่าการระบาดของตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของด้วงหมัดผักทำให้ผลผลิตเสียหายถึงร้อยละ 10

การประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชของอาเซียนได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยได้แสดงความสนใจที่จะทำการวิจัยเพื่อทดสอบการใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช โดยประเทศไทยได้เลือกทำการทดสอบชีวภัณฑ์ในผักกาดขาวปลีซึ่งมักจะประสบกับปัญหาการระบาดของด้วงหมัดผักอยู่เสมอ

ในการนี้ โครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเยอรมันและอาเซียน ร่วมกับกรมวิชาการเกษตรของไทย โครงการหลวง และบริษัทเทพวัฒนา จำกัด ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของการใช้จุลินทรีย์และไส้เดือนฝอยเพื่อควบคุมการระบาดของด้วงหมัดผักในผักกาดขาวปลีตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 โดยการทดสอบในแปลงปลูกผักกาดขาวปลีของเกษตรกรในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง จังหวัดเชียงราย และเปรียบเทียบผลที่ได้ระหว่างแปลงที่ใช้ชีวภัณฑ์ แปลงควบคุม และแปลงที่ใช้สารเคมีควบคุมศัตรูพืชทั่วไป

ผลการทดลองระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2557 พบว่ารากผักกาดขาวปลีเจริญเติบโตได้ดีกว่า เพราะชีวภัณฑ์ที่ใช้ คือ แบคทีเรียบาซิลัส ทูริงเยนซิส และไส้เดือนฝอยสามารถทำลายตัวอ่อนด้วงหมัดผักได้ดี และปริมาณการใช้ก็น้อยกว่า โดยมีการฉีดพ่นชีวภัณฑ์เพียง 3 ครั้งเมื่อเทียบกับการฉีดพ่นสารเคมีที่ต้องฉีดถึง 6 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าชีวภัณฑ์มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับสารเคมี แต่ใช้ในปริมาณน้อยกว่า จึงช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรได้ ทั้งยังลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้สารเคมี และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย

ผลการทดลองใช้ชีวภัณฑ์ที่ได้ จะเป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาแนวปฏิบัติการใช้ชีวภัณฑ์เพื่อจัดการกับแมลงศัตรูพืชสำคัญชนิดนี้ อย่างปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

โครงการระบบอาหาร-เกษตรแบบยั่งยืนแห่งอาเซียน เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างอาเซียนและรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบนโยบายด้านความยั่งยืนของภาคเกษตร-อาหารระดับภูมิภาคให้มีความเสอดคล้องกัน ส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตที่ยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าอาหารข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนโดยให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เป็นหน่วยงานที่ดำเนินโครงการในนามของรัฐบาลเยอรมัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศิริพร ตรีพรไพรัช

ผู้จัดการฝ่ายงานประชาสัมพันธ์, GIZ

โทรศัพท์ 66 2 661 9273 ต่อ 63 E-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๘ Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง