ปภ.รายงานเกิดสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด รวม 15 อำเภอ 59 ตำบล

พุธ ๓๐ กรกฎาคม ๒๐๑๔ ๑๐:๕๒
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร และอุบลราชธานี รวม 15 อำเภอ 59 ตำบล 390 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,183 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 51,716 ไร่ ซึ่ง ปภ. ได้จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร และอุบลราชธานี รวม 15 อำเภอ 59 ตำบล 390 หมู่บ้าน 19,183 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 51,716 ไร่ โดยจังหวัดสกลนคร เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,298 ครัวเรือน สะพานเสียหาย 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,782 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มการเกษตร รวมถึงยังมีฝนตกในพื้นที่เล็กน้อย หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆ นี้ จังหวัดอุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสำโรง อำเภอนาเยีย อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ อำเภอสว่างวีระวงศ์ อำเภอ สิรินธร อำเภอกุดข้าวปุ้น และอำเภอตระการพืชผล รวม 43 ตำบล 254 หมู่บ้าน 14,885 ครัวเรือน บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 775 หลัง เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนจำนวน 20 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 91 สาย สะพาน 9 แห่ง วัด 2 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 39,934 ไร่ สัตว์ปีก 15,000 ตัว ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มการเกษตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์ จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 – 3 วัน สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร เขต 13 อุบลราชธานี ได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย สนับสนุนเรือท้องแบน รถบรรทุก อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของและให้บริการ ในการสัญจรแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย พร้อมเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา ในพื้นที่หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200

www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น