พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีแม่อายุ ๓๔ ปี บังคับลูกแท้ๆและหลานสาวอายุ ๑๗ ปี ขายบริการทางเพศให้กับชาวต่างชาติในเมืองพัทยา ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องราวที่สะเทือนสังคม เป็นปัญหาที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เร่งป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยตนได้กำชับเจ้าหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนโดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ สำหรับกรณีพบหญิงสาวชาวไทยและชาวต่างด้าว ๑๒ ราย ค้าประเวณีให้ลูกค้า ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในซอยศรีนครินทร์ ๔๙ กรุงเทพฯ โดยกรณีดังกล่าวตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายทั้งหมดต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากกรณีลูกเรือประมงชาย อายุ ๒๔ และ ๓๙ ปี โดดลงทะเล เพื่อหนีจากการถูกใช้แรงงานทาสในเรือประมง ที่จังหวัดปัตตานี จากกรณีดังกล่าว ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในเบื้องต้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
“นอกจากนี้ ยังมีกรณีเด็กชายวัย ๙ ขวบถูกประทัดยักษ์เกิดระเบิดใส่มือนิ้วขาด ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำในช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งเด็กชอบซื้อประทัดมาเล่นเองโดยไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง และอาจเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นประทัด เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขอเน้นย้ำให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือร้านค้าไม่ควรจำหน่ายประทัดให้เด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย