ผู้นำอาเซียนต้องเร่งแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลังหนึ่งปีไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน

อังคาร ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๔ ๑๕:๕๒
หนึ่งปีหลังจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยียนได้พัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์จนได้รับความเสียหายและความสูญเสียชีวิตอย่างมหาศาลนั้น เมื่อวานนี้กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนได้ร่วมกันเตือนบรรดาผู้นำที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ให้ตระหนักถึงหายนะที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นหากไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จากรายงานฉบับล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change – IPCC) แนวร่วมแห่งอาเซียนเพื่อข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย หรือ ASEAN for a Fair, Ambitious and Binding Global Climate Deal (A-FAB) กล่าวว่า พายุและวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น ยกเว้นแต่ว่าถ้ารัฐบาลต่างๆ ได้ยอมปฏิบัตินโยบายที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำเพื่อที่จะลดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต

ในการส่งข้อความนี้ไปถึงเหล่าผู้นำอาเซียนนั้น เมื่อวานนี้อาสาสมัครจากเมืองทาโคลบันได้แต่งกายในชุดประจำชาติของแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของทั้ง 10 ชาติอาเซียนที่มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โรเจอร์ บาโคโล หนึ่งในอาสาสมัครที่เข้าร่วมกิจกรรม และเป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์เลวร้ายของพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนได้กล่าวว่า "ผมได้สูญเสียมารดาในเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ผมไม่อยากเห็นภัยพิบัติเช่นนี้อีกในชีวิตและในอนาคตของคนรุ่นต่อไป การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานี้ และผมก็หวังว่าเราทุกคนจะสามารถรวมเป็นหนึ่งและลงมือทำอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อทุกๆคน"

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะว่ามีประชากรอาศัยอยู่แนวชายฝั่งทะเลอย่างหนาแน่นและพี่งพาการทำเกษตรกรรมในการดำรงชีวิต ดังนั้นภูมิภาคนี้จึงมีความอ่อนไหวต่อผลกระทบที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ เช่น พายุ อุทกภัย และภัยแล้ง

"ความเป็นจริงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าอาเซียน อย่างไรก็ดี การรวมตัวทางเศรษฐกิจที่จะมีขึ้นย่อมเป็นโอกาสที่ดีที่ภูมิภาคนี้จะเริ่มก้าวเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาด" เซลดา โซริอาโน ที่ปรึกษาด้านกฏหมายและการเมือง กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมาชิกของ A-FAB กล่าว

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา A-FAB ได้ตีพิมพ์เอกสารข้อเสนอแนะด้านนโยบายภายใต้หัวข้อ "สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว" และเปิดเผยถึงความเสียหายที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศในทศวรรษที่ผ่านมาต่อประชากรหลายแสนคน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่าสี่พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (1)

ริซ่า เบอร์เนบ ผู้ประสานงานด้านนโยบายและการวิจัยโครงการ GROW อ็อกแฟม เอเชียตะวันออกกล่าวว่าเราควรนำเหตุการณ์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนมาเป็นบทเรียนที่เตือนว่าเราไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจได้อีกต่อไปในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

"เราควรที่จะทำทุกวิถีทางในส่วนของเราเพื่อสร้างเสริมความเข้มแข็งของประชาชนให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติต่างๆ อาเซียนควรให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพภูมิอากาศ โดยจัดให้มีโครงการต่างๆ ในระดับภูมิภาคว่าด้วยการลดความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติและการปรับตัวในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ริซ่ากล่าว

แนวร่วมแห่งอาเซียนเพื่อข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย (A-FAB) เป็นความร่วมมือระหว่างอ็อกแฟม กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และองค์การรัฐประศาสนศาสตร์ภาคพื้นตะวันออก (The Eastern Regional Organization for Public Administration- EROPA) ที่ร่วมกันผลักดันให้อาเซียน (Association of South East Asian Nations – ASEAN) แสดงบทบาทอย่างเปิดเผยและตื่นตัวในประเด็นว่าด้วยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change – UNFCCC)

หมายเหตุ

(1) เอกสารข้อเสนอแนะด้านนโยบาย'สภาพภูมิอากาศที่สุดขั้ว' สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://bit.ly/1DqcXa5

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา