ประเด็นแรก: ภาวะโตเร็ว เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
จากการสืบค้นข้อมูลก็พบว่า ศาสตรจารย์มาร์ติน แอชลี่ย์ หัวหน้าทีมวิจัยของ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอดจ์ ฮิลล์ สหราชอาณาจักร ได้ทำการศึกษากับเด็กชาย 1,000 คน ภายใต้ข้อสังเกตว่า เด็กผู้ชายสมัยนี้แตกเนื้อหนุ่มกันอย่างรวดเร็ว แค่อายุ 11-12 ปี ก็เสียงแตกกันเป็นแถว แตกต่างกับสมัยทศวรรษปี พ.ศ.2503 ที่ต้องมีอายุ 13-14 ปีก่อน จึงจะเปล่งเสียงแตกหนุ่มออกมาให้ได้ยิน รวมถึง หน้าอกหน้าใจหรือ นมก็จะเริ่มแตกพานด้วย ศาสตราจารย์แอชลี่ย์ก็เลยทำการวัดการเติบโตของเด็กหนุ่ม โดยวิเคราะห์เสียงของเด็กหนุ่มด้วยคอมพิวเตอร์ ...ภายหลังการศึกษา ท่านก็ลงความเห็นว่า เด็กๆ โตเร็วเพราะผู้คนสมัยใหม่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์กว่าอดีตกาลมาก ที่สำคัญ การที่เด็กชายสมัยนี้แตกเนื้อหนุ่มกันเร็วขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดช่วงสองพันปีเลยทีเดียว
ประเด็นที่สอง : อะไรคือสาเหตุของภาวะโตเร็ว
ศ.นพ.พัฒน์ มหาโชคเลิศวัฒนา หัวหน้าหน่วยต่อมไร้ท่อ และเมตาโบลิซึมคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เคยอธิบายถึงประเด็นนี้ว่า ภาวะเด็กโตเร็วนั้นเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย โดยมีปัจจัยหลักที่สำคัญที่คนทั่วโลกยอมรับ นั่นก็คือ "ภาวะอ้วน" หรือ "โภชนาการที่ดีเกินไป" เนื่องจากเนื้อเยื่อไขมัน ที่ทำให้เด็กๆ อ้วนนั้น มีความสามารถในการกระตุ้นให้มีร่างกายสร้างฮอร์โมนเพศขึ้น ตัวเซลล์ไขมันไม่ใช่สิ่งที่ดี ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรจะเลี้ยงดูลูกให้มีน้ำหนักที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้อ้วน ตั้งแต่ 3-4 ขวบ เพราะมีข้อมูลการติดตามผลต่อเนื่องแล้วพบว่า เด็กที่อ้วนตั้งแต่ 3-4 ขวบจะเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ 1-2 ปี เด็กอ้วนจะโตกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน แต่จะหยุดสูงเร็วและหลังจากเติบโตขึ้น เขามักกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่สูง ซึ่งการรักษาก็ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงก่อน
อย่างไรก็ตาม คุณหมอย้ำว่า การเป็นหนุ่มสาวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพร้อมจะสืบเผ่าพันธุ์ได้ ซึ่งการที่เด็กหญิงมีประจำเดือน เป็นสัญญาว่าร่างกายเติบโตเต็มที่แล้วอย่าเข้าใจผิดว่าประจำเดือนเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหยุดสูง เพราะมันเป็นเพียงสัญญาญบอกความพร้อมของร่างกายเท่านั้น การหยุดประจำเดือนจึงไม่ใช่การแก้ปัญหาเพื่อทำให้เด็กสูงขึ้น และเพื่อช่วยลดความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ลงอีกระดับ คุณหมอก็ได้ให้ข้อสังเกตง่ายๆว่าถ้าเด็กมีประจำเดือนหลังอายุ 8 ขวบ ถือว่าไม่ผิดปกติ และอายุเฉลี่ยที่เริ่มมีหน้าอก ควรจเป็น 9-10 ขวบ... ลูกบ้านไหนที่อยู่ในเกณฑ์นี้ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องโตเร็วแล้ว
ประเด็นที่สาม : ไก่ เป็นสาเหตุของภาวะโตเร็วหรือไม่
ในประเด็นนี้ ศ.นพ.พัฒน์ มองว่า “ไก่” ไม่ใช่สาเหตุหลักของภาวะโตเร็ว เพราะสาเหตุหลักคือ ”ความอ้วน” และหากจะมองว่าในไก่มีฮอร์โมนเร่งโตที่อาจตกค้างมาถึงผู้บริโภคนั้น คุณหมอได้ให้ข้อมูลว่าในประเทศไทยมีการห้ามใช้ฮอร์โมนเร่งโตในการเลี้ยงสัตว์มานานแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นฟาร์มมาตรฐานใหญ่ๆ ที่มีการตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพดีๆ มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ก็เชื่อได้ว่าไม่มีการใช้ฮอร์โมน เพราะเสี่ยงเกินไปและไม่มีความจำเป็นต้องใช้
ประเด็นที่สี่ : จะเชื่อได้อย่างไรว่า ไก่ ไม่มีการใช้ฮอร์โมน
ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ระบุว่า เนื้อไก่จากระบบอุตสาหกรรมและเลี้ยงในฟาร์มไก่มาตรฐาน ซึ่งมีระบบการตรวจสอบและควบคุมการผลิตที่ดี จะไม่มีการใช้ฮอร์โมนในระบบการเลี้ยงแน่นอนเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศห้ามใช้ยาเฮ็กโซเอสตรอลซึ่งเป็นยาที่ใช้สำหรับตอนสัตว์ปีกและเป็นฮอร์โมนสำหรับรักษาสัตว์โดยมีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนตำรับยาที่มีเฮ็กโซเอสตรอล ไม่ให้จำหน่ายในประเทศไทยมาตั้งแต่มิถุนายน 2529 หรือเกือบ 3 ทศวรรษมาแล้ว
นอกจากนี้ ประเทศไทยเองเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลก มีตลาดหลักที่สำคัญ คือ สหภาพยุโรป หรืออียู และญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาหารอย่างมาก และมีการตรวจสอบการใช้สารหรือฮอร์โมนอย่างเข้มงวด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีการตรวจพบว่า ไก่ของประเทศไทยมีการใช้สารดังกล่าวเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ที่สำคัญ การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงสัตว์ของไทยพัฒนาไปมาก ตั้งแต่ การคัดสรรและพัฒนาสายพันธุ์ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่แข็งแรง มีการเจริญเติบโตที่ดีตามธรรมชาติ การใช้โรงเรื่อนปิดปรับอากาศ ให้ไก่อยู่สุขสบาย ไม่เครียดจึงไม่ป่วย รวมไปถึงการเลี้ยงโดยใช้มาตรฐานสวัสดิภาพและสุขอนามัยสัตว์ที่ดีมีระบบการจัดการฟาร์มที่ดีและตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งระบบ มีการคิดค้นและพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของสัตว์แต่ละช่วงวัย เพื่อให้สามารถแสดงออกถึงลักษณะเด่นทางพันธุกรรมได้อย่างเต็มที่..ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ไก่ไทยในปัจจุบันใช้เวลาเลี้ยงน้อยลงแต่กลับโตดีกว่าที่เลี้ยงกันในอดีต โดยไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้สารเร่งโตเลยแม้แต่นิดเดียว
ทั้งหมดนี้ คงช่วยตอบข้อสงสัยของคุณพ่อคุณแม่ได้แล้วว่า “ไก่” ไม่ใช่ผู้ร้ายทำเด็กโตเร็ว เด็กๆสามารถรับประทานเนื้อไก่ได้ตามปกติ แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินประเภทใดก็ขอให้กินอย่างพอเหมาะ และอาจต้องพิจารณาวิธีปรุงอาหารโดยหลีกเลี่ยงการปรุงที่จะทำให้เด็กเกิดไขมันสะสมและนำไปสู่ความอ้วนได้ง่ายเท่านั้นเอง