พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีชายวัย ๔๘ ปี ไปรับจ้างตัดต้นไม้ แต่พลาดตกลงมาได้รับเจ็บสาหัส ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ และต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวพิการทางสายตาอายุ ๒๖ ปี ตามลำพัง อาศัยข้าววัด ประทังชีวิต ที่จังหวัดตรัง ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง (พมจ.ตรัง) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของทั้ง ๒ คนต่อไป และกรณีพบศพชาย อายุ ๔๔ ปี นอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุภายในบ้านพัก โดยมีลูกชาย อายุ ๔ ขวบ นั่งร้องไห้กอดศพผู้เป็นพ่อ เป็นที่เวทนาต่อผู้ที่พบเห็น ซึ่งเด็กชายอาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพัง ที่จังหวัดยโสธร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร (พมจ.ยโสธร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและ ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อญาติ เพื่อมารับตัวเด็กชายไปดูแลต่อ หากพบว่าไม่มีญาติพี่น้อง ให้รับเข้ามาอยู่ในความดูแลของกระทรวงฯ ต่อไป
“กรณีเกิดเหตุถังสีพลาสติกเก่าระเบิดใส่เด็กชาย อายุ ๗ ขวบ ได้บาดเจ็บสาหัส สาเหตุเกิดจากดินระเบิดเชื้อปะทุ ทำปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ ซึ่งเด็กชายนำมาตีเล่นจนเกิดความร้อนระเบิดขึ้นมา ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนมีความห่วงใยเด็กในช่วงปิดเทอม เนื่องจากเด็กมีเวลาว่างและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงขอฝากให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ปิดเทอมนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว ขึ้นอีก”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย