“ในปัจจุบันมีนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถมาช่วยเปิดทางลัดให้ได้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหมองคล้ำได้มีผิวหน้าขาวนวลเนียนเปล่งประกาย คืนความขาวสว่างกระจ่างใสสู่ใบหน้าคุณได้ไม่ยาก แถมยังช่วยชลดจุดด่างดำบนผิว และความไม่สม่ำเสมอบนผิวหน้า ซึ่งเกิดจากรังสียูวีเอ ยูวีบี รวมถึงมลภาวะที่อยู่ในอากาศที่ผิวต้องเผชิญในชีวิตประจำวันอีกด้วย ซึ่งถือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลในการทำลายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพ หมองคล้ำได้เร็วมากขึ้น นวัตกรรมที่เป็นตัวช่วยสำคัญคืออะไร สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความขาว ความสว่างใสเปล่งประกาย ขาวอมชมพูอย่างธรรมชาติให้ผิวหน้านั้นในปัจจุบันได้มีการให้บริการโดยโปรแกรมบำรุงผิวหน้าด้วยทรีทเม้นต์คลื่นความเย็น เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก ทำให้ได้เซลล์ผิวใหม่ที่ดูสดใส และมีสุขภาพดี ด้วยเครื่องมือผลักมัลติวิตามินเข้มข้น คอลลาเจนเข้มข้นและสารสกัดเข้มข้นอโรเวล่าเจล กับหลักการทำงานง่ายๆ โดยใช้ระบบความเย็นเข้าสู่รูขุมขนบนใบหน้า ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน กระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิว ลดปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน ลดเลือนริ้วรอย พร้อมส่งผ่านวิตามินลงสู่ผิวชั้นลึก เพื่อผิวที่ขาวใส ชุ่มชื่น แลดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสทั่วใบหน้า การทรีทเม้นต์ด้วยระบบคลื่นความเย็นสำหรับผิวหน้าช่วยแก้ไขปัญหาอย่างไร ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ดูหมองคล้ำ ไม่ผ่องใสให้กลับมา ดูขาวใสอมชมพูได้ดั่งเดิม และยังสามารถลดการสร้างเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติ จากสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลง อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และทำให้จุดด่างดำดูจางลงได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ความเย็นยังทำให้รูขุมขนปิด พร้อมทั้งยังช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี คอลลาเจน ฯลฯ และอโรเวล่าเจล ซึ่งสารสกัดธรรมชาติเข้มข้นเหล่านี้ ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงเหมือนมีชีวิตใหม่ และยังมีหน้าที่ไปช่วยยับยั้งการอ็อกซิเดชั่นของเอ็มไซน์ในร่างกายเรา ซึ่งกระบวนการนี้จะไปช่วยยับยั้งเม็ดสีเมลานินบนเซลล์ผิวโดยตรง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเม็ดสีผิวเมลานินนั้นทำให้เซลล์ผิวขาวกลับคล้ำ ซึ่งเราจะเห็นภาพได้ชัดคือ เมื่อเราปลอกผลไม้ทิ้งไว้จะเกิดคล้ำขึ้นเพราะการอ็อกซิเดชั่นของเอ็มไซน์เหล่านี้นั่นเอง สารเหล่านี้มีอยู่ทั้งในตัวพืช และสิ่งมีชีวิตทั่วไป ลักษณะของวิตามินต่างๆ คอลลาเจน และอโรเวล่านั้น เป็นสารที่สามารถละลายน้ำได้ ซึมลึกสู่เซลล์ผิวได้ง่าย จึงสามารถใช้ได้ ทุกสภาพผิว เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ข้อดีหลักๆ มีอะไรบ้าง ไม่ทำให้ผิวบางลงแต่อย่างใด เพราะมันไปยับยั้งการเปลี่ยนสีของเมลานินในเซลล์ผิวได้โดยตรง ไม่ได้ทำเกิดการกัดลอกของผิวหนังชั้นนอก ออกมา คือ บำรุงจากภายในนั้นเอง เมื่อผิวไม่บางลงเราก็สามารถบำรุงผิวไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี ครีมกันแดด หรือสารบำรุงผิวอื่นๆ ได้ตามสะดวก และแม้ว่าจะหยุดใช้บริการแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นแต่อย่างใดอีกด้วย เราเพียงแต่หมั่นหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือถ้าจะออกแดดก็ต้องหมั่นทาครีมกันแดดทุกครั้ง ผลลัพธ์จากการเข้ารับบริการเป็นอย่างไร โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังจากรับบริการตั้งแต่ครั้งแรก เช่น ผิวดูสดใส ลดความหมองคล้ำลง ร่างกายกระชุ่มกระชวย รอยแผลต่างๆ บนผิวหน้าหายได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ไป ทั้งนี้ผลลัพธ์การรับบริการทรีทเม้นต์ผลักสูตรผสมสารอาหารผิวเข้มข้น และมัลติวิตามินขึ้นกับการตอบสนองของแต่ละบุคคล และตัวอนุมูลอิสระที่มีอยู่เดิมในร่างกาย ที่แตกต่างกัน คล้ายๆ กับการล้างพิษ หากพิษมาก หรือมีความเสื่อมของเซลล์มาก ร่างกายก็ต้องใช้สารอาหารหรือตัวต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น เมื่อสภาพร่างกายได้รับบริการทรีทเม้นต์ผลักสูตรผสมสารอาหารผิวเข้มข้น และมัลติวิตามินฟื้นฟูผิวสดใสจนเป็นที่พอใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับบริการเป็นประจำ สามารถรับบริการได้เป็นครั้งคราวตามต้องการได้ เพื่อความสดใสของผิวพรรณอย่างคงทนถาวร ข้อจำกัดของการเข้ารับบริการมีหรือไม่ อันดับแรกผู้เข้ารับบริการควรต้องศึกษาข้อมูลก่อนเข้ารับบริการ และต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวเดิมที่ต้องการแก้ไขของแต่ละบุคคล โดยควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเป็นผู้ประเมินสภาพปัญหาก่อนตัดสินใจรับบริการ และการให้บริการจะต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าสภาวะร่างกายของผู้รับบริการเหมาะสมกับการรักษาแบบใด จึงมีความปลอดภัยในการรับบริการสูง โดยสามารถรับบริการอย่างต่อเนื่องได้สัปดาห์ละครั้ง ติดต่อกันประมาณ 4-8 สัปดาห์ ก่อนจะเว้นระยะห่างการรับบริการออกไปตามความเหมาะสมหรือดุลยพินิจของแพทย์
ได้ฟังข้อมูลกันไปแล้ว หลายๆคนอาจจะมองเห็นทางออกและทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหาหมองคล้ำให้กลับมาขาวกระจ่างใสกันแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมศึกษาข้อมูล และควรเลือก คลินิค หรือสถาบันความงามที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองอย่างถูกต้อง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะให้การรักษา หากใครสนใจและมีคำถามเพิ่มเติม ก็สามารถคุยกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญได้ในwww.facebook.com/authenticclinic