พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ระบบสารสนเทศด้านสังคม : Social Information System พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือนำเสนอข้อมูลสารสนเทศที่แสดงสถานการณ์ทางสังคม ได้แก่ การกระจายตัว ระดับความรุนแรง และ การแพร่ขยายของปัญหาของกลุ่มเป้าหมายในระดับพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยผู้ใช้สามารถ นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ทิศทางแนวโน้มของสถานการณ์ โดยมีการจัดลำดับความสำคัญหรือความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อวางแผนเตรียมการรองรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวมี ๒ ส่วนหลัก คือ
๑) ส่วนฐานข้อมูล เป็นส่วนของผู้ผลิต โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิด้านสังคมจากหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวงฯ โดยจัดทำในรูปแบบคลังข้อมูลทุติยภูมิด้านสังคม
๒) ส่วนการนำเสนอข้อมูล เป็นส่วนของผู้ใช้งาน ประกอบด้วย
๒.๑)ระบบสารสนเทศทางสังคม : MIS Application ซึ่งนำเสนอข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบเว็บไซต์ ที่ใช้งานง่าย ครอบคลุมข้อมูลสถานการณ์ที่สำคัญ ข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลเชิงประเด็น และข้อมูลพื้นฐาน โดยมีการนำเสนอด้วยตารางรายละเอียดข้อมูล กราฟ และแผนที่ Google Map อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้บน Smart Devices
๒.๒)ระบบภูมิสารสนเทศ : GIS Application โดยนำเสนอข้อมูลสารสนเทศในรูปแผนที่ภูมิศาสตร์ ผู้ใช้งานจะต้องติดตั้งระบบและฐานข้อมูลที่จัดเตรียมให้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนการใช้งาน ข้อมูลสารสนเทศที่นำเสนอ ได้จัดเป็นกลุ่มเช่นเดียวกับระบบ MIS และ
๓)ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร : EIS Application เป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญหรือที่อยู่ในความสนใจจากระบบ MIS และผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตามแบบจำลองต่างๆ กับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (Google Map) โดยนำเสนอในรูปแบบเว็บไซต์เช่นเดียวกับระบบ MIS
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (สป.พม.) ในฐานะหน่วยงานที่จัดทำและพัฒนาระบบสารสนเทศด้านสังคม : Social Information System ตระหนักถึงความสำคัญของระบบดังกล่าว จึงได้จัดโครงการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ระบบสารสนเทศด้านสังคม : Social Information System ภายใต้ชื่องาน “พัฒนาสังคมอย่างมีคุณภาพด้วยระบบสารสนเทศด้านสังคม” เพื่อให้เป็นที่รู้จักของทุกภาคส่วนต่างๆ และสามารถ ใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้าง โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนแหล่งข้อมูลได้แก่ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานสถิติแห่งชาติ กรมการจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นักวิชาการด้านพัฒนาสังคม และผู้แทนสื่อมวลชน จำนวนทั้งสิ้น ๒๐๐ คน
“ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้านสังคมทั้งภายในและภายนอกกระทรวงฯ รวมถึงนักวิชาการ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศภายใต้ระบบ SIS ได้โดยสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการดำเนินงาน วางแผน การป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคม พัฒนาและจัดสรรทรัพยากรและทุนทางสังคม รวมทั้งติดตามและประเมิน การพัฒนาสังคม โดยเฉพาะการสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การบูรณาการฐานข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบบสารสนเทศด้านสังคมอย่างแท้จริง ทำให้สามารถเข้าไปใช้งานได้จริงอย่างต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วนในการพัฒนาให้เป็นสังคมที่มีคุณภาพต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย