ป๋องเบียร์ บอกว่า ภาพประดับสัตว์หิมพานต์ เทคนิคประดับกระจก ตกแต่งผนัง โดยใช้ไฟเบอร์กลาสซึ่งเป็นวัสดุในปัจจุบันที่มีความคงทนและสะดวกในการเคลื่อนย้าย มาใช้เป็นวัสดุหลักในการสร้างชิ้นงาน เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในยุคสมัยใหม่ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านแต่อาจจะไม่สะดวกในเรื่องของน้ำหนักของวัสดุรูปแบบเดิมและประดับตกแต่งเพิ่มเติมด้วย กระจก พลอย เลื่อมและคริสตัลเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน นอกจากนี้ยังเป็น การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ภาพประดับสัตว์หิมพานต์ เทคนิคประดับจก ตกแต่งผนัง ที่ออกแบบมีทั้งหมด 3 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นจะมีลักษณะเฉพาะที่เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์นำโชคมาพัฒนา คือ ภาพประดับลวดลายหงส์ จำนวน 1 ชิ้น ขนาด 27 X 25 นิ้ว ,ภาพประดับลวดลายพญานาค จำนวน 1 ชิ้น ขนาด 29 X 23 นิ้ว ,ภาพประดับลวดลายราชสีห์ จำนวน 1 ชิ้น ขนาด 24 X 20 นิ้ว
เจ้าของผลงาน เล่าต่อว่า สำหรับลวดลายสัตว์หิมพานต์ทั้ง3 แบบ ได้มาจากการศึกษางานลวดลายสัตว์หิมพานต์ในงานจิตกรรม ประติมากรรมของไทย ออกแบบและร่างแบบนำแบบที่ได้ไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและได้ทำการเลือกแบบ ภาพประดับสัตว์หิมพานต์ เทคนิคประดับกระจกที่มีความเหมาะสม ที่สามารถนำไปสร้างผลงานได้จริง โดยขั้นตอนในการทำงานแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอนหลัก
ขั้นตอนที่ 1 การทำต้นแบบ นำกระดาษแข็งมาวาดเพียงแค่โครงร่างแล้วนำเข็มมุดมากลัดให้กระดาษแข็งติดอยู่กับแผ่นโฟม หลังการนั้นขึ้นโครงตามแบบด้วยการใช้เครื่องตัดโฟมไฟฟ้าทำการแกะโฟมตามที่ได้ออกแบบลวดลายไว้ ในส่วนของบริเวณที่ต้องการประดับคริสตัล ให้ทำการระบุสัญลักษณ์โดยใช้มีดสะกิดหรือใช้ปากกาเมจิกระบุสัญลักษณ์ไว้ (เพื่อนำไปเจาะรูด้วยสว่านหลังจากการหล่อชิ้นงานเสร็จ) จากนั้นนำสีทาบ้านหรือสีอคิลิคมาทาให้ทั่วชิ้นงานเพื่อเก็บรายละเอียด หากชิ้นงานมีฟองขึ้นและไม่เรียบ (นำกระดาษทรายมาขัดจนกว่าจะเรียบ) ทำซ้ำตามขั้นตอนข้างต้นจนว่าชิ้นงานจะเรียบเนียนสนิทจนเป็นที่พอใจ หลังจากนั้นให้นำกาวลาเท็กซ์มาทาให้ทั่วบริเวณด้านหลังของชิ้นงาน แล้วนำไปแปะลงบนไม้อัด
ขั้นตอนที่ 2 การทำพิมพ์ครอบ เริ่มจากการทำพิมพ์ยางซิลิโคน เมื่อชิ้นงานทั้งหมดที่ได้ทำการทาสีขัดเกลาตกแต่งเพิ่มเติมอย่างละเอียดแล้ว ใช้วาสลีนทาให้ทั่วแล้วเช็ดออกให้เกลี้ยง นำดินน้ำมันมาก่อขึ้นล้อมรอบบริเวณชิ้นงานโดยให้อยู่ห่างและสูงกว่าชิ้นงานเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นนำยางซิลิ โคนผสมตัวเร่งโดยที่ไม่ต้องใส่ตัวเร่งในปริมาณที่เยอะเพื่อให้สามารถทาชิ้นงานได้ทั่วถึง แล้วจึงนำมาทาบางๆ ให้ทั่วชิ้นงานแล้วรอให้แห้งสนิท จากนั้นทายางซิลิโคนรอบที่สองลงไป ทิ้งไว้สักครู่รอให้ยางเกือบแห้ง (เวลานำมือไปสัมผัสจะมีลักษณะหนึบๆ เพียงเล็กน้อย) จากนั้นนำผ้าก๊อตมาแปะให้ทั่วชิ้นงาน และทาเรซิ่นทับอีกครั้ง ต่อไปเป็นขั้นของการทำพิมพ์ครอบปูนปลาสเตอร์ นำปูนปลาสเตอร์ผสมน้ำเพียงเล็กน้อย ทาให้ทั่วบริเวณชิ้นงาน รอให้แห้งแล้วนำใยมะพร้าวมาชุปด้วยปูนปลาสเตอร์ และทาให้เต็มพื้นที่งาน เหตุที่ใช้ใยมะพร้าวเข้ามาช่วย (เป็นตัวประสานไม่ให้งานชำรุดง่าย) รอให้ชิ้นงานแห้งสนิท จากนั้นผสมปูนปลาสเตอร์อีกครั้งเพื่อนำมาทาให้ปิดใยมะพร้าวที่โผล่ออกมา ตกแต่งชิ้นงานให้เรียบเพื่อความสะดวกต่อการหล่อ
ขั้นตอนที่ 3 การหล่อชิ้นงาน ผสมเรซิ่นและตัวเร่งปฏิกิริยา ทาบาง ๆ ให้ทั่วชิ้นงาน ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทในรอบแรก จากนั้นผสมเรซิ่นอย่างใส ไม่ใส่ผง พร้อมกับตัวเร่งจากนั้นทาบาง ๆ ให้ทั่วชิ้น ตามด้วยใยแก้ววางให้ทั่วชิ้นงานให้เป็นระเบียบพยายามอย่าให้เกินขอบชิ้นงานมากนัก เพราะจะทำให้เสียเวลาในการขัดตกแต่ง หลังจากนั้นให้นำเรซิ่นผสมสีและตัวเร่ง มาทาให้ทั่วชิ้นงานอีกครั้งเพื่อไม่ให้เห็นใยแก้วทิ้งไว้จนกว่าจะแห้งสนิท
ขั้นตอนที่ 4 การขัดตกแต่งชิ้นงาน การเก็บรายละเอียดชิ้นงาน โดยการนำชิ้นงานทั้งหมดไปเจียรและเก็บรายละเอียดชิ้นงานด้วยกระดาษทราย พร้อมนำชิ้นงานไปเจาะรูด้วยสว่านตามตำแหน่งที่ต้องการจะประดับพลอย เลื่อม และคริสตัล หากบริเวณใดชำรุดให้ซ่อมแซมชิ้นงานด้วย อีพ๊อกซ์ซี่ หรือ เรซิ่น
ขั้นตอนที่ 5 การตกแต่งชิ้นงานด้วยการตกแต่งสี การนำชิ้นงานทั้งหมดมาทารองพื้นด้วยสเปรย์สีขาว โดยพ่นบาง ๆ ในรอบแรกแล้วรอให้แห้ง จึงพ่นทับอีกครั้งในรอบที่สองพยายามอย่าพ่นให้ชิ้นงานดูหนาและเป็นก้อน จากนั้นนำชิ้นงานทั้งหมดมาทาสีภาพรวม โดยทาสีในแต่ละส่วนตามที่ต้องการเพ้นท์เพื่อเพิ่มมิติให้แก่ชิ้นงาน
ขั้นตอนที่ 6 การตกแต่งชิ้นงานด้วยกระจก เลื่อม และติดตัวแขวนผนัง นำกระจก พลอย เลื่อม และคริสตัล มาประดับตามตำแหน่งที่ได้ทำการระบุไว้ นำกาวลาเท็กซ์มาทาในบริเวณที่ต้องการประดับ (ระวังอย่าทากาวให้เยิ้มออกมาจำนวนมากเพราะจะทำให้กระจก พลอย เลื่อม และคริสตัลไม่ค่อยเงา) หากต้องการซ่อมแซม ปรับเปลี่ยนให้ นำพู่กันชุบน้ำนำมาแตะบริเวณที่เราต้องการปรับปรุง รอแห้งสักพักแล้วจึงดึงกระจก เลื่อม พลอย หรือคริสตัลเหล่านั้นออก หลังจากนั้นติดตัวแขวนผนัง นำคลิปหนีบกระดาษจำนวน 2 อัน มาคลี่ออกให้ออกมาเป็นลักษณะเหมือนเป็นภูเขา หาตำแหน่งที่วางให้ตรงกันทั้งสองฝั่ง เวลาใส่สลิงแขวนแล้วจะทำให้งานไม่เบี้ยว หลังจากนั้นนำเรซิ่นและใยแก้วมาเทใส่ในบริเวณที่เราต้องการให้ห่วงยึด พอเสร็จนำสีดำด้านมาพ่นให้ทั่วบริเวณด้านหลังชิ้นงาน แล้วจึงนำไปติดสลิงแขวนผนัง
“ในการสร้างชิ้นงานต้องมีความประณีต ใจเย็น เพื่อให้ชิ้นงานออกมาสวยงาม เป็นผลงานทำมือที่มีเพียงสามชิ้นในโลกนี้” ป๋องเบียร์กล่าวทิ้งท้าย ปรบมือให้กับเจ้าของไอเดียที่ต้องการจะถ่ายทอดความงดงามเอกลักษณ์ของชาติให้เป็นที่รู้จัก สร้างผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านที่มีความสวยงาม โดนเด่นไม่เหมือนกัน สำหรับผู้ที่สนใจงานทำมือที่ไม่เหมือนใคร สามารถสอบถามรายละเอียด หรือต้องการลวดลายอื่นๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่ น้องป๋องเบียร์ โทร. 090-4231295